ข่าวสิงคโปร์ประหารชีวิตชายคนหนึ่ง ที่ลักลอบขนกัญชาหนัก 1 กิโลกรัมเข้าประเทศ สร้างความตกใจไปทั่วโลก หลายฝ่ายมองว่า สิงคโปร์ทำเกินกว่าเหตุ เพราะแค่ขนยาเสพติด ไม่ถึงขั้นต้องลงโทษประหารชีวิตก็ได้
สิงคโปร์ได้ชื่อว่า เป็นประเทศที่ไม่ยอมผ่อนปรนใดใดเกี่ยวกับคดียาเสพติด การประหารชีวิตคดีลอบขนกัญชา 1 กิโลกรัมนี้ ทางสิงคโปร์มองว่า เป็นมาตรการขั้นเด็ดขาดที่ต้องใช้เพื่อยับยั้งปัญหายาเสพติด และแต่ละประเทศไม่จำเป็นต้องมีจุดยืนเดียวกันเกี่ยวกับโทษประหารชีวิต
การที่สิงคโปร์ยังคงให้กัญชาเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และยึดมั่นในโทษประหารชีวิตแม้ขนยาเพียงเล็กน้อย ยังทำให้ประเทศนี้ ดูถอยห่างจากเพื่อนบ้านมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะอย่างประเทศไทยเองก็เพิ่งให้การสูบกัญชาเป็นสิ่งถูกหมายเมื่อปีที่แล้ว แต่ห้ามสูบในที่สาธารณะ ส่วนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซียก็เพิ่งโหวตเมื่อต้นเดือนนี้ เห็นชอบให้ยกเลิกโทษประหารชีวิตและจำคุกตลอดชีวิต
ที่ประเทศสิงคโปร์นั้น แค่ลักลอบขนกัญชาเกิน 500 กรัมขึ้นไป ก็ต้องโทษประหารชีวิตแล้ว เมื่อปีที่แล้ว สิงคโปร์ประหารชีวิตนักโทษไป 11 คน ทั้งหมดล้วนเป็นคดียาเสพติด
แม้ประเทศส่วนใหญ่ในโลกยังให้การครอบครองกัญชาเพื่อกิจกรรมสันทนาการเป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่ประเทศที่อนุญาตให้ทำสิ่งนี้ได้ ก็เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา เช่น อุรุกวัย จอร์เจีย แอฟริกาใต้ แคนาดา เม็กซิโก มอลต้า และไทย ส่วนที่ประเทศสหรัฐอเมริกา มีอยู่ 22 รัฐ สามดินแดน และที่กรุงวอชิงตันดีซี ที่ให้ใช้กัญชาเพื่อสันทนาการได้
สำหรับประเทศที่ให้ขายกัญชาเพื่อกิจกรรมสันทนาการได้อย่างถูกกฎหมาย มีอยู่ 3 แห่ง คือ ที่แคนาดา ไทย และอุรุกวัย
ผลสำรวจชาวสิงคโปร์ 1,000 คน เมื่อปีที่แล้ว พบว่า มีอยู่ 53% เห็นว่า สิงคโปร์ควรพิจารณาให้การใช้กัญชาทางการแพทย์เป็นสิ่งถูกกฎหมาย และมีอยู่ 12% ที่เห็นว่า สิงคโปร์ควรพิจารณาให้การใช้กัญชาเพื่อเหตุผลทางการแพทย์และสันทนาการ เป็นสิ่งถูกกฎหมายทั้งคู่ ส่วนอีก 35% เห็นว่า การใช้กัญชาไม่ว่าด้วยเหตุผลใด ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมายทั้งสิ้น