WHO เตือนการระบาดของโควิด-19 ยังไม่น่าไว้วางใจ

องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่าได้รับรายงานว่าในช่วง 28 วันที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อใหม่ 3 ล้านคน และเสียชีวิตมากกว่า 23,000 คน ในขณะที่การทดสอบเชื้อลดลงมาก ดร.ไมเคิล ไรอัน ผู้อำนวยการฝ่ายโครงการภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพของ WHO กล่าวว่าในขณะที่ตัวเลขกำลังลดลง แต่คนจำนวนมากก็ยังป่วยและยังเสียชีวิตอยู่ 

เขาบอกด้วยว่าไวรัสโรคทางเดินหายใจชนิดนี้ ไม่ได้เปลี่ยนผ่านจากการเป็นโรคระบาด (pandemic phase) ไปเป็นโรคประจำถิ่น (endemic phase) แต่จะไปอยู่ระดับที่มีการระบาดสูงสุดตามฤดูกาล "เราไม่ได้หยุดการแพร่ระบาด แต่มีแนวโน้มมากขึ้นที่จะได้เห็นเส้นทางไปสู่รูปแบบที่คาดเดาได้มากขึ้น"

ในการประชุมหลายครั้งก่อนหน้านี้ของ WHO ได้มีการตัดสินใจว่าจะให้ "โคโรนาไวรัส" ที่เป็นต้นกำเนิดของโควิด-19 ยังคงเป็น "ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ" (PHEIC) หรือไม่ ซึ่งถือเป็นระดับการแจ้งเตือนสูงสุดที่ WHO สามารถแจ้งเตือนได้ ซึ่ง WHO ได้ประกาศให้โควิด-19 เป็น PHEIC เมื่อวันที่ 30 มกราคม ปี 2563 แม้จะมีผู้ติดเชื้อไม่ถึง 100 คน และไม่มีผู้เสียชีวิตนอกประเทศจีนแล้วก็ตาม แต่ปรากฎว่าในเดือนมีนาคมปีเดียวกัน ดร.เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการ WHO ได้ยืนยันสถานการณ์ว่ายังมีการระบาดอยู่ และเรียกร้องให้โลกหันมาให้ความสนใจ 

ดร.ไรอัน บอกว่า ไวรัสไม่ได้ถูกกำจัดให้หมดไป แต่มันเหมือนไข้หวัดใหญ่ที่ยังคงเป็นสาเหตุให้เกิดโรคทางเดินหายใจในหมู่ที่อ่อนแอ บางประเทศยังมีประชากรจำนวนมากที่มีความเปราะบางในระดับสูง ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน ในขณะที่บางประเทศมองว่า โควิด-19 ไม่ใช่สถานการณ์ฉุกเฉินอีกต่อไป 

ก่อนที่คณะกรรมการฉุกเฉินรับมือโควิด-19 เสนอคำแนะนำต่อ ดร.เกเบรเยซุส ซึ่งเป็นผู้ตัดสินขั้นสุดท้ายว่า จะยังจัดให้ไวรัสอยู่ในกลุ่ม PHEIC หรือไม่นั้น ดร.ไรอัน บอกว่าเขาหวังว่าเมื่อคณะกรรมการฉุกเฉินประชุมกันในเดือนพฤษภาคม พวกเขาจะมีคำแนะนำในเชิงบวกเพิ่มเติมให้ ดร.เกเบรเยซุส เพื่อประเมินแนวทางการแพร่ระบาดและการมีอยู่หรือไม่ของ PHEIC ต่อไป

คำเตือนนี้สอดคล้องกับรายงานที่ว่า กำลังมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ XBB.1.16 ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยพบแล้วใน 22 ประเทศ โดยเฉพาะอินเดีย โดยสายพันธุ์นี้มีความสามารถในการติดต่อสูงกว่าสายพันธุ์ในอดีต และ WHO กำลังจับตาอย่างใกล้ชิด