ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่าง ๆ รวมถึงหนังสือพิมพ์ “เลส์ เอโคส์” ของฝรั่งเศส และเว็บไซต์ “โพลิติโค” เมื่อวันศุกร์ หลังเสร็จสิ้นการเยือนกรุงปักกิ่งของจีนนาน 3 วัน และในบทสัมภาษณ์ที่ได้รับการเผยแพร่ในวันอาทิตย์ ระบุว่า ผู้นำฝรั่งเศส กล่าวถึงประเด็นไต้หวันว่า สิ่งเลวร้ายที่สุดที่ยุโรปไม่ควรทำ คือ “เป็นผู้ตามและคอยปรับตัวตามจังหวะของสหรัฐฯ และปฏิกิริยาตอบสนองมากเกินไปของจีน” พร้อมกับตั้งคำถามว่า “ทำไมเราต้องเต้นตามจังหวะที่คนอื่นเลือก”
ความเห็นของมาครงเสี่ยงที่จะสร้างความขุ่นเคืองกับสหรัฐฯ และสะท้อนถึงความแตกแยกภายในยุโรปเกี่ยวกับแนวนโยบายต่อจีน ในช่วงที่สหรัฐฯ เพิ่มการเผชิญหน้ากับคู่แข่งมากขึ้น และจีนใกล้ชิดกับรัสเซียมากขึ้น นับจากรัสเซียก่อสงครามในยูเครน
จีนกำลังจัดการซ้อมรบรอบเกาะไต้หวัน เพื่อตอบโต้ที่ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ของไต้หวันพบปะกับเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ที่รัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อวันที่ 5 เม.ย. ระหว่างแวะเยือนสหรัฐฯ ช่วงเดินทางขากลับหลังเสร็จสิ้นการเยือนกัวเตมาลาและเบลีซ
มาครง กล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญที่สหภาพยุโรป (อียู) ต้องเข้าใจเหตุผลของจีนเกี่ยวกับไต้หวัน โดยระบุว่า จีนกังวลเรื่องเอกภาพ และไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของเอกภาพตามมุมมองของจีน
คำสัมภาษณ์ของมาครงย้ำแนวคิดของตัวเองว่า อียูควรมี “ความอิสระในเชิงยุทธศาสตร์” ซึ่งหมายถึงมีนโยบายต่างประเทศที่เป็นอิสระของตัวเอง เขากล่าวว่า ยุโรปควรมียุทธศาสตร์ที่ชัดเจนของตัวเอง ที่เหมือนหรือต่างจากสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยูเครน ความสัมพันธ์กับจีน หรือ การคว่ำบาตร พร้อมกับพูดชัดเจนว่า ยุโรปไม่ควรติดอยู่ในความยุ่งเหยิงของโลก และวิกฤต ที่ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเอง
นอกจากนี้เขายังบอกด้วยว่า อียูควรทำหน้าที่เป็น “ขั้วอำนาจที่ 3” ในภูมิรัฐศาสตร์ เคียงข้างกับสหรัฐฯ และจีน