svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

สถานการณ์ไต้หวันไม่สู้ดี หลังผู้นำไต้หวันพบประธานสภาผู้แทนสหรัฐ

05 เมษายน 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดี ไช่อิงเหวิน ของไต้หวัน ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นทันทีที่เดินทางถึงนิวยอร์ก และล่าสุดนี้ นางได้พบปะกับ เควิน แม็คคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนสหรัฐที่รัฐแคลิฟอร์เนีย เรื่องที่เกิดขึ้น จะทำให้ผู้นำไต้หวันถูกรักหรือถูกเกลียดกันแน่

นางไช่อิงเหวิน แถลงสั้นๆ หลังพบปะกับประธานสภาผู้แทนสหรัฐ โดยระบุว่า ประชาธิปไตยของไต้หวัน กำลังเผชิญความท้าทายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และไต้หวันซาบซึ้งที่มีสหรัฐอยู่เคียงข้าง 

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงที่สหรัฐเองก็มีความเป็นอริกับจีนมากขึ้น  ทั้งยังแสดงตัวอย่างเปิดเผยมากขึ้นในการสนับสนุนไต้หวัน  เห็นได้จากการที่ นาง แนนซี เพโลซี อดีตประธานสภาผู้แทนสหรัฐ  เดินทางไปไต้หวันเมื่อฤดูร้อนปีที่แล้ว ( 2022 ) แม้รู้ดีว่า จะทำให้จีนไม่พอใจ เพราะถือว่า ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน   ไต้หวันเป็นประเด็นที่สร้างความอ่อนไหวอย่างใหญ่หลวงระหว่างความสัมพันธ์ของจีนกับสหรัฐ สถานการณ์ไต้หวันไม่สู้ดี หลังผู้นำไต้หวันพบประธานสภาผู้แทนสหรัฐ

และทันทีที่ เควิน แม็คคาร์ธี รับไม้ต่อจากเพโลซี ขึ้นเป็นประธานสภาผู้แทนสหรัฐเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เขาก็ประกาศเจตนารมณ์จะเดินตามรอยนางเพโลซี ด้วยการเยือนไต้หวัน แต่ดีที่ประธานาธิบดี ไช่อิงเหวิน ออกมาปรามทัน โดยบอกว่า ไม่น่าจะเป็นความคิดที่ดีนัก ถ้าจะทำเช่นนั้น  แต่ขอเปลี่ยนเป็นมานั่งคุยกันที่รัฐแคลิฟอร์เนียแทนที่

ประธานาธิบดี ไช่อิงเหวิน ไม่ต้องการให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐมาเยือนไต้หวันเพิ่มเติม  แต่นางก็จำเป็นต้องแสดงให้จีนเห็นว่า ไต้หวัน กับสหรัฐ ก็ยังติดต่อกันมิได้ขาด   

ส่วนการพบปะกันระหว่างผู้นำไต้หวันกับประธานสภาผู้แทนสหรัฐที่แคลิฟอร์เนียหนนี้  แม็คคาร์ธี ก็เรียกการพบปะนี้ว่า ทำไปอย่างยินยอมพร้อมใจของทั้งสองฝ่าย  แม้จีนออกมาเตือนสหรัฐแล้วว่า กำลังเล่นกับไฟในประเด็นไต้หวัน  แต่ทางทำเนียบขาวก็บอกว่า ไม่เห็นจำเป็นที่จีนจะต้องทำเกินกว่าเหตุ  ซึ่งในระหว่างการพบปะกันที่แคลิฟอร์เนีย ก็มีเครื่องบินเล็กลำหนึ่งบินผ่านสถานที่พบปะ พร้อมคลี่ข้อความออกมาอ่านได้ว่า " จีนเดียว ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน "  สถานการณ์ไต้หวันไม่สู้ดี หลังผู้นำไต้หวันพบประธานสภาผู้แทนสหรัฐ

นักวิเคราะห์มองว่า การทูตแบบทางผ่าน กลายเป็นสิ่งจำเป็นต่อไต้หวันตอนนี้  เป็นเวลาหลายปีมาแล้วที่จีนประสบความสำเร็จในการลิดรอนพันธมิตรของไต้หวัน จนกระทั่งตอนนี้ เหลือเพียง 13 ประเทศที่รับรองไต้หวัน ดังนั้น การเยือนต่างประเทศโดยนัดพบกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศนั้น ระหว่างเปลี่ยนเครื่อง จึงกลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับไต้หวัน 

ในขณะเดียวกัน ทางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ก็ออกมาตอบโต้ ด้วยการเชิญ หม่าอิงจิ่ว ประธานาธิบดีไต้หวันคนก่อน เยือนจีน   โดยเขาได้เดินทางเยือน 5 เมืองของจีน แต่เห็นได้ชัด การเยือนครั้งนี้เป็นไปเพื่อกราบไหว้บรรพบุรุษในช่วงเทศกาลเชงเม้ง  แต่จริงๆ แล้ว มันเป็นการเยือนทางการเมืองด้วยเช่นกัน เพราะถือเป็นครั้งแรกที่อดีตประธานาธิบดีไต้หวัน ได้รับการเชื้อเชิญให้มาเยือนจีน นับจากไต้หวันก่อตั้งขึ้นมาในปี 1949 

นักวิเคราะห์มองว่า จีนพยายามใช้ไม้อ่อนกับไต้หวัน  หวังชนะใจคนที่นั่น และไม่ต้องการให้เกิดกระแสชาตินิยมพุ่งพรวดในไต้หวัน ในช่วงที่จะมีการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีหน้า ( 2024 ) 

ด้านอดีตประธานาธิบดี หม่าอิงจิ่ว ของไต้หวัน  ทันทีที่เครื่องบินลงจอดที่เมืองหนานจิง สัปดาห์ก่อน เขาก็กล่าวว่า พวกเราทุกคนล้วนเป็นคนจีน  คำพูดนี้แม้จะทำให้จีนพอใจ แต่แน่นอนว่า คนไต้หวันคงไม่เห็นด้วย จากมุมมองของนักวิเคราะห์ เพราะคนไต้หวันกว่า 60% มองว่า ตัวเองเป็นคนไต้หวัน ไม่ใช่คนจีน 
 
แต่ผลสำรวจก็พบว่า คนไต้หวันกว่าครึ่ง มองว่า อาจเกิดสงครามกับจีน และหม่าอิงจิ่ว ก็พยายามจะทำให้คนไต้หวันเชื่อว่า พรรค ก๊กมินตั๋ง ของเขา ทำให้ไต้หวันเลี่ยงสงครามได้ 

แต่สิ่งที่ยังเป็นปัญหา คือความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติยักษ์ใหญ่ คือ จีนและสหรัฐ ที่ดูจะเสื่อมถอยลงที่สุด นับจากสองประเทศสถาปนาความสัมพันธ์กันในปี 1979 ที่ผ่านมา สหรัฐแม้ว่า จะไม่เต็มใจนัก แต่ก็ยอมรับในนโยบายจีนเดียว และสิ่งนี้ก็การันตีสันติภาพในไต้หวันมาโดยตลอด แต่ตอนนี้ จีนเริ่มเชื่อแล้วว่า สหรัฐกำลังจะเปลี่ยนความคิด 

 แม้ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐจะบอกว่า เขาจะไม่ใช้ไต้หวันเป็นอาวุธเด็ดขาด และไม่สนับสนุนให้ไต้หวันแยกออกจากจีน   แต่การที่ไต้หวันกับสหรัฐยังจัดให้มีการพบปะกันระหว่างผู้นำและเจ้าหน้าที่ระดับสูง ก็สร้างความแคลงใจให้จีนไม่น้อย  สถานการณ์ไต้หวันไม่สู้ดี หลังผู้นำไต้หวันพบประธานสภาผู้แทนสหรัฐ


 

logoline