ในที่สุด นายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ก็ดำเนินรอยตาม นางแนนซี เพโลซี ผู้ดำรงตำแหน่งก่อนหน้าเขา ด้วยการเตรียมตัวไปพบ ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ของไต้หวัน ในระหว่างแวะที่รัฐแคลิฟอร์เนียในช่วงการเดินทางขากลับไปยังไต้หวัน ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่จีนมองว่า "เป็นการยั่วยุ"
สำนักงานของนายแมคคาธี ซึ่งเป็น ส.ส.ของพรรครีพับลิกัน ยืนยันว่านายแมคคาร์ธีจะพบกับผู้นำไต้หวันที่รัฐแคลิฟอร์เนียในวันพุธที่ 5 เมษายน 2566 ที่ห้องสมุดประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน (Ronald Reagan Presidential Library) โดยเป็นการพบปะหารือแบบไม่เลือกพรรค เพราะคาดว่าจะมีสมาชิกนิติบัญญัติราว 20 คน ที่ร่วมขบวนไปกับเขา ที่รวมทั้ง ส.ส.พีท อากิลาร์ ของพรรคเดโมแครตจากรัฐแคลิฟอร์เนีย กับคณะกรรมาธิการวิสามัญว่าด้วยเรื่องจีน
จีนเพิ่งจะเตือนสหรัฐฯ ว่า "กำลังเล่นกับไฟ" ในกรณี "ทริป" ของนางไช่ที่แวะนิวยอร์ก ซึ่งเป็น "การแวะอย่างเป็นทางการ" ในระหว่างทางการไปเยือนละตินอเมริกา ส่วนขากลับก็จะแวะที่รัฐแคลิฟอร์เนียอีก และครั้งนี้ก็มีกำหนดที่จะพบนายแมคคาร์ธี
เรื่องนี้ถือเป็นประเด็นใหญ่สำหรับจีน ที่เพิ่งจะจัดการซ้อมรบทางทหารรอบเกาะไต้หวัน เพื่อให้โลกโดยเฉพาะสหรัฐฯ ได้ตระหนักว่า ไต้หวันซึ่งปกครองตนเองด้วยระบอบประชาธิปไตย เป็นเพียงดินแดนส่วนหนึ่งของจีนที่รอการ "รวมชาติ" แต่นายแมคคาร์ธียังคงยืนกรานที่จะตามรอยนางเพโลซี ที่ไปเยือนไต้หวันก่อนอำลาตำแหน่ง กลายเป็นตำนานประธานสภาฯ คนแรกของสหรัฐฯ ที่ไปเยือนไต้หวันในรอบ 25 ปี
แม้เขาจะเลือกไปพบนางไช่ที่รัฐแคลิฟอร์เนียบ้านเกิดของเขา เพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นการเลือก "ทางสายกลาง" เพื่อหลีกเลี่ยงการกระพือความตึงเครียดกับจีน แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่าสหรัฐฯ รู้ว่า "หลักการจีนเดียว" คือไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน แต่สหรัฐฯ "ไม่เคยยอมรับข้ออ้างนี้อย่างเป็นทางการ" ทำให้จีนต้องคอยปรามมาโดยตลอดว่าจำเป็นต้องใช้กำลังทหารเข้ากำราบ ถ้าวันหนึ่งวันใดไต้หวันประกาศตัวเป็นเอกราช
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายซู ซิ่วหยวน อุปทูตไต้หวัน ได้เตือนว่า การเหยียบแผ่นดินสหรัฐฯ ของนางไช่ อาจนำไปสู่ "การเผชิญหน้าที่ร้ายแรง และส่งผลกระทบที่รุนแรง" ต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ