ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมามียักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีจำนวนมากรวมถึง Microsoft Corp, Salesforce Inc, Alphabet และ Meta ที่พยายามปรับลดขนาดธุรกิจด้วยการเลิกจ้างพนักงานหลายพันตำแหน่งอย่างน่าตกใจ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อะไรก็อาจเกิดขึ้นได้
ขณะที่ แอมะซอน (Amazon) คือรายล่าสุดที่ออกมาประกาศเลิกจ้างเป็นรอบที่ 2 หลังรอบแรกคือเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา แอมะซอนได้ประกาศจ้างพนักงานไปแล้วกว่า 18,000 คน ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่ทำงานในออฟฟิศแผนกค้าปลีกและเจ้าหน้าที่ด้านทรัพยากรบุคคล
แอนดี้ แจซซี ซีอีโอของแอมะซอนที่เพิ่งรับไม้ต่อมาจากเบซอสเมื่อปี 2564 กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทางบริษัทได้เพิ่มพนักงานจำนวนมาก เนื่องจากการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ปัญหาเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนในปัจจุบันทำให้บริษัทต้องเลือกลดค่าใช้จ่ายและจำนวนพนักงานลง โดยการลดพนักงานรอบสองนี้จะมุ่งเน้นไปที่บริการคลาวด์ การโฆษณา และพนักงานจากยูนิต Twitch แพลตฟอร์มที่เน้นคลิปวิดีโอและเกมสตรีมมิ่งคู่แข่งยูทูป ซึ่งถูกซื้อโดยแอมะซอน ในราคา 970 ล้านดอลลาร์เมื่อปี 2557
เมื่อเดือนที่แล้วแอมะซอนเพิ่งออกมาเปิดเผยการคาดการณ์ว่า กำไรจากการดำเนินงานอาจลดลงอย่างต่อเนื่องในไตรมาสปัจจุบัน โดยได้รับผลกระทบจากผลกระทบจากความคล่องตัวทางการเงินของผู้บริโภคที่ลดลง และลูกค้าระบบคลาวด์ที่เริ่มลดการใช้จ่าย เห็นได้จากยอดขายจากแผนกคลาวด์คอมพิวติ้งมีกำไรชะลอตัวในช่วงไตรมาสที่สี่ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ Meta ซึ่งเป็นเจ้าของ Facebook ก็เปิดเผยจะเลิกจ้างงานอีก 10,000 ตำแหน่งในปีนี้ หลังจากที่เคยเลิกจ้างงานไปแล้วกว่า 11,000 ตำแหน่งในรอบแรก