
ผู้คนยังแคลงใจเหตุใด ทอม ครูซ ไม่ไปร่วมงานประกาศผลรางวัลออสการ์ครั้งที่ 95 ทั้งที่ Top Gun : Maverick ได้เข้าชิงตั้ง 6 สาขา รวมทั้งภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ขนาดพ่อมดฮอลลีวูดอย่าง สตีเฟน สปีลเบิร์ก ยังชมเปาะเลยว่าช่วยเซฟฮอลลีวูดเอาไว้ เพราะโกยรายได้ในขณะที่วงการซบเซาเพราะอ่วมจากพิษเศรษฐกิจและโควิด-19
ตอนที่มีงานเลี้ยงออสการ์ (Oscars' luncheon) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ทอมไปร่วมงานด้วยแต่พอถึงงานแจกรางวัลกลับไม่ไปเสียเฉย ๆ โดยอ้างว่า ต้องรีบกลับไปถ่ายทำ Mission Impossible 7 ที่ยูเค
แต่แล้วแหล่งข่าวในฮอลลีวูดก็ถึงบางอ้อว่า ที่ทอมไม่ไปก็เพราะรู้ว่าอดีตภรรยา นิโคล คิดแมน กับสามี คีธ เออร์บัน ไปร่วมงานด้วยนั่นเอง... และที่ทอมไม่ไปก็เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่มันกระอักกระอ่วนนั่นเอง ส่วนงานเลี้ยงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ทอมไปก็เพราะนิโคลไม่ไป ไม่รู้อะไรยังคาใจทำให้ทอมไม่ยอมสู้หน้านิโคล ทั้งที่ทั้งคู่ก็เลิกราหย่าขาดกันมานานถึง 20 กว่าปีแล้ว
นิโคลพบทอมเมื่อปี 2533 ตอนที่เล่นหนังเกี่ยวกับการแข่งรถเรื่อง Days of Thunder ตอนนั้นนิโคลอายุ 23 เพิ่งมาจากออสเตรเลียและไม่มีแสงในฮอลลีวูด แต่ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปเมื่อฉากโรมานซ์ในจอลามมาในชีวิตจริง แต่หลังจากใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันมานาน 12 ปี ทอมก็เดินออกจากชีวิตของนิโคลเมื่อปี 2544 ทำให้เธอถึงกับช็อก และในขณะที่ยังตั้งตัวไม่ทันเขาก็ยื่นฟ้องหย่าขาดจากเธอในปีเดียวกัน โดยอ้างเหตุผลว่า "มีความแตกต่างที่เข้ากันไม่ได้" ส่วนเหตุผลที่แท้จริง คาดว่าจะมาจากการที่นิโคลไม่ยอมเข้าร่วมลัทธิ Church of Scientology ที่ทอมศรัทธาถึงขั้น "หลงใหล"
เมื่อปี 2555 นิโคลเปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงการแยกทางที่เจ็บปวดกับ DuJour Magazine ว่า
"ฉันคิดว่าชีวิตคู่ของเราสมบูรณ์แบบ ฉันใช้เวลานานมากในการเยียวยา มันทำให้ฉันช็อกไปทั้งตัว"
เธอยังบรรยายความคลั่งรักที่มีต่ออดีตสามีด้วยว่า
"เราอยู่ในฟองสบู่ มีเพียงเราสองคน เราพึ่งพาซึ่งกันและกันมาก ฉันสามารถไปจนสุดขอบโลกเพื่อเขา..."
หลังหย่าขาดการนิโคลกับทอมก็ไม่ได้มีการติดต่อใด ๆ กัน ยิ่งไปกว่านั้นนิโคลก็ไม่ได้ติดต่อกับอิซาเบลลา วัย 30 กับ คอนเนอร์ วัย 28 ที่ทั้งคู่รับมาเลี้ยงเป็นลูกสาวและลูกชายบุญธรรมด้วย และที่สำคัญคือทั้งคู่ถูกทอมพาเข้าลัทธิ Church of Scientology ไปเรียบร้อยแล้ว
นิโคลเคยให้สัมภาษณ์ว่า
"พวกเขาโตแล้ว สามารถตัดสินใจด้วยตัวเองได้ พวกเขาเลือกที่จะเป็น Scientologists... ในฐานะแม่ งานของฉันคือการรักพวกเขา"