svasdssvasds
เนชั่นทีวี

บันเทิง

ย้อนชีวิต “เด่น ดอกประดู่” กับมรสุมด้านสุขภาพ หนีออกจากบ้านนับร้อยครั้ง

11 ตุลาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ย้อนชีวิต “เด่น ดอกประดู่” กับมรสุมชีวิต จากตลกดังสู่การเป็นคนเร่ร่อน หนีออกจากบ้านนับร้อยครั้ง หิวโซขอข้าววัดกิน

จากกรณีข่าวเศร้าของวงการบันเทิงโดยเฉพาะวงการตลกที่ได้สูญเสียตลกอาวุโส “เด่น ดอกประดู่” วัย 80 ปี หลังจาก "โย่ง เชิญยิ้ม" โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัวแจ้งข่าวเศร้าในครั้งนี้ บรรดาแฟนคลับบุคคลในวงการบันเทิงต่างเข้าไปแสดงความไว้อาลัยเป็นจำนวนมาก ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น  (อ่านข่าว) 

 

ย้อนชีวิต “เด่น ดอกประดู่” กับมรสุมด้านสุขภาพ หนีออกจากบ้านนับร้อยครั้ง

 

สำหรับเส้นทางชีวิตของ “เด่น ดอกประดู่” นอกจากเป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดงตลกชื่อดังผู้ที่สร้างเสียงหัวเราะ มีผลงานให้ชาวไทยได้ชมมาหลายสิบปี และมีภาพจำในฐานะผู้ผลิตและเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์เกี่ยวกับการเกษตรที่ชื่อรายการว่า “ไม่ลองไม่รู้”   ออกอากาศทางช่อง 9 นานกว่า 14 ปี  รวมถึงเป็นเจ้าของธุรกิจผลิตดินเกษตรผสม จำหน่ายในแบรนด์ ไม่ลองไม่รู้ มีโรงงานผลิตอยู่ที่บ้านพักในหมู่บ้านย่านซอยวัชรพล ถนนรามอินทรา

 

ย้อนชีวิต “เด่น ดอกประดู่” กับมรสุมด้านสุขภาพ หนีออกจากบ้านนับร้อยครั้ง

 

แต่ตลกดังกลับมีชีวิตที่ต้องเผชิญกับมรสุมครั้งใหญ่ในบั้นปลายชีวิตโดยใน 2561 ได้ได้บวชที่วัดชุมพลนิกายาราม ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับฉายา เตชธัมโม หลังตกเป็นข่าวทำให้งานหดหาย อยู่บ้านกับภรรยาเฉยๆ ไม่ได้ช่วยครอบครัวหารายได้ ทำให้เกิดอาการซึมเศร้า จึงตัดสินใจออกจากบ้านมีเพียงเสื้อผ้ามาชุดเดียว กับยาที่รักษาอาการเบาหวานและความดัน

เมื่อในปี 2562 ได้ปรากฏข่าวที่ทำเอาหลายคนตกอกตกใจเมื่อมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพ “เด่น ดอกประดู่” หิ้วสัมภาระใส่ถุงปุ๋ย นั่งรถทัวร์จากหมอชิตไปขอนแก่น พร้อมข้อความว่า “บันทึกเวลาเดินทางของคุณ #เด่น ดอกประดู่ เผื่อครอบครัวคุณเด่นกำลังตามหานะคะ คุณเด่นกำลังเดินทาง จากกรุงเทพ-ไปขอนแก่น รถออกจากหมอชิต รอบ เวลา18.30 น 22-3 บ.ชาญทัวร์ สอบถามพูดคุยรู้เรื่อง แต่การเดินทางไปไม่มีจุดหมายว่าจะไปทำอะไรค่ะ ข้อมูลเบื้องต้นมีปัญหาชีวิตและกำลังสับสน สัมภาระมีเพียงถุงปุ๋ยใส่ของ 2 ใบ ไม่มีเครื่องมือสื่อสารติดตัว ให้เบอร์จิตอาสา ติดตัวไว้เพื่อประสานความช่วยเหลือ..ขอให้การเดินทางของคุณ เด่น ดอกประดู่ ราบรื่นนะคะ” ซึ่งจากเหตุการณ์ในครั้งนี้บรรดาญาติของตลกดังได้ไปเคลีบร์ใจตามกลับไปรับตัวกลับบ้านในที่สุด

 

 

ย้อนชีวิต “เด่น ดอกประดู่” กับมรสุมด้านสุขภาพ หนีออกจากบ้านนับร้อยครั้ง

 

แต่ต่อมาในปี 2563 “เด่น ดอกประดู่” ในวัย 78 ปี ได้หนีออกจากบ้านจนเป็นข่าวครึกโครมอีกครั้ง  โดยหอบกระเป๋าเสื้อผ้าหนีออกจากบ้านอีกรอบ ด้วยการนั่งรถทัวร์จากกรุงเทพฯไปยัง อ.แม่สอด จ.ตาก โดยที่ยังไม่รู้ว่าจะไปไหนต่อหรือว่านอนที่ใด ซึ่งผู้ที่พบเห็นได้มีการอัดคลิปพร้อมถามไถ่ด้วยความห่วงใย เนื่องจากเห็นว่าเป็นดารามีชื่อเสียงและอายุมากแล้ว ซึ่งเจ้าตัวได้บ่นแบบน้อยใจว่า ตนอาภัพมาตั้งแต่เด็ก พระเอกหนังก็เป็น เพลงก็แต่งเอง ลูกศิษย์เยอะแยะ โดยตัดพ้อว่า เด่น-เด๋อ-ดู๋-ดี๋-เทพ ได้ดีกันหมดไม่มีใครเรียกตนเอง อีกทั้งทางก็ไล่ตนเองออกจากบ้านจึงไม่รู้ว่าชีวิตจะไปทางไหน

 

ย้อนชีวิต “เด่น ดอกประดู่” กับมรสุมด้านสุขภาพ หนีออกจากบ้านนับร้อยครั้ง

ทั้งนี้ตลกดังเคยมีข่าวหนีออกจากบ้านแล้วหลายครั้ง เนื่องจากปัญหาโรคอัลไซเมอร์ ต้องทานยาทุกวัน และมักมีอารมณ์เกรี้ยวกราด หากคนในบ้านทำให้ขัดใจ โดยก่อนหน้านี้มีความเครียดเพราะไม่มีงานในวงการ ต้องอยู่บ้านเฉยๆ และราว 2 ปีก่อนก็ได้ตัดสินใจบวช ซึ่งการออกจากบ้านครั้งนี้ ภรรยายังบอกด้วยว่าจะไม่ตามกลับมาแล้ว

ซึ่งในวันต่อมา เด่น ได้เดินทางเข้ากราบพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ บอกอยากฝากตัวเป็นศิษย์วัดเหตุจากตนเองน้อยใจภรรยาจึงตัดสินใจออกจากบ้าน ซึ่งทางวัดได้ประสานติดต่อกับญาติให้ไปรับตัวในที่สุด  ซึ่งญาติได้เคยเปิดเผยว่า  “เมื่อไหร่ที่เขารู้สึกน้อยอกน้อยใจลูกเมีย คิดมากนิดๆ หน่อยๆ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม เขาก็จะออกจากบ้านไป บางทีก็ไปโผล่ภาคเหนือ บางทีก็ไปโผล่อีสาน ตอนแรกๆ เราก็ออกตามหาเพราะเป็นห่วงกังวล แต่พอบ่อยๆ ครั้งเข้า เราก็เลิกตาม เพราะเขาไปได้ไม่นาน ประมาณ 1-2 วัน ก็จะกลับมา รวมๆ แล้วเขาออกไปนับร้อยครั้ง แต่ไม่ว่าไปไกลแค่ไหน ก็กลับมาได้เองทุกครั้ง บางทีไปเชียงใหม่ แต่ไปได้ไม่ถึงวันก็กลับบ้านแล้ว”

 

ย้อนชีวิต “เด่น ดอกประดู่” กับมรสุมด้านสุขภาพ หนีออกจากบ้านนับร้อยครั้ง

 

อย่างไรก็ตามข่าวของ “เด่น ดอกประดู่” เงียบหายไปจากวงการบันเทิงพักใหญ่ จนกระทั่งล่าสุดวงการบันเทิงได้รับข่าวร้ายกับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับ เนชั่นออนไลน์ขอแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียครั้งนี้อย่างสุดซึ้ง

 

 

logoline