
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
(คลิป) "อย่ามาห้าม" เพลงสุดท้ายของ"โจ บอยสเก๊าท์" ก่อนสิ้นลม(คลิป) 26 ปีเส้นทางบันเทิง "โจบอยสเก๊าท์"
พ่อเศร้ารับศพ "โจบอยสเก๊าท์"เผยยังทำใจไม่ได้ไม่เคยเล่าปัญหาสุขภาพหวั่นพ่อเป็นห่วง
ด้านนายทรงพล คล้ายพงษ์พันธ์ หรือดิ๊บ และนายวินรวีร์ ใหญ่เสมอ หรือต๊ะ บอย สเก๊าท์ กล่าวว่า วันนี้ทางวงมีเล่นคอนเสิร์ตที่ร้าน คัลเลอร์บาร์ ย่านทาวน์อินทาวน์ เดินทางมาตั้งแต่เวลา 23.00น. และเริ่มเล่นตอน 23.30น. พอร้องไปได้ประมาณ 13-14เพลง เห็นพี่โจ ไปนั่งพัก ซึ่งปกติถ้าอยู่บนเวทีเราจะไม่ทำแบบนั่น แต่ก็ยังไม่ได้เอะใจอะไร จนมาถึงก่อนที่จะร้องเพลงสุดท้าย เรากำลังพูดคุยเลยมุขกันอยู่ แต่จู่ๆพี่โจ ก็ล้มลงไปตอนนั้นเราคิดว่าพี่โจเล่นมุข ยังแซวกันเองอยู่เลย จนเราเริ่มผิดสังเกตุจึงไปจับตัวที่โจ พบว่าตาเหลือก กัดกราม น้ำลายฟูมปาก และหายใจเบาและตัวเย็นลงเราตกใจมากจึงรีบใช้มืองัดปากพี่โจเพื่อให้หยุดกัดกราม ตอนนั้นมันไม่มีใครที่รู้เรื่องแบบนี้ และที่จะสามารถช่วยเราได้ ซึ่งทุกคนที่พอจะช่วยได้ก็พยายามช่วยกันเต็มที่ โทรแจ้งมูลนิธิ โทรแจ้งตำรวจ จนเจ้าหน้าที่พามาโรงพยาบาล แพทย์ก็ช่วยปั๊มหัวใจนานกว่า 30นาที แต่ก็ไม่เป็นผล
ทั้งนี้แพทย์ตรวจเลือดพบว่าน้ำตาลสูงถึง300 ระบุสาเหตุการเสียชีวิตคือกล้ามเนื้อหัวใจไม่ทำงาน ส่วนตัวเชื่อว่าพี่โจนั้นเสียชีวิตตั้งแต่อยู่บนเวทีแล้ว
นายทรงพล คล้ายพงศ์พันธ์ หรือดิ๊บ และนายวินรวีร์ ใหญ่เสมอ หรือต๊ะ บอย สเก๊าท์ ยังกล่าวต่ออีกว่า เรารู้จักกันมา 25-26 ปี จากภาพยนต์ที่เราเล่นด้วยกัน คือเรื่อง "อนึ่ง คิดถึงพอสังเขป" จากนั้นเราก็เป็นเพื่อนกันเรื่อยมา หลังจากนั้น 2-3ปี อาร์เอส มีโปรเจกต์ ทำวงนักร้อง3 คน ซึ่งตอนนั้นพี่โจเป็นศิลปินอยู่แล้ว เราจึงลองไปออดิชันดูซึ่งขณะนั้นเฮียฮ้อก็เรียกเราเข้าไปทีละคน แล้วถามว่าให้เลือกอีกสองคนจะเลือกใคร ซึ่งเราทั้ง3คนก็ตอบเหมือนกัน จึงทำให้เราเป็นวงบอยสเก๊าท์จนถึงทุกวันนี้ สำหรับพี่โจนั้นเป็นคนดี เป็นมากยิ่งกว่าเพื่อน เป็นคนที่ใส่ใจคนอื่น ตลอดทั้ง 26 ปีที่คบกันมา สิ่งที่เราประทับใจมากที่สุดคือความเป็นเพื่อน พี่โจสามารถอยู่กับเราได้ทุกที่จริง
เบื้องต้นญาติเตรียมนำศพโจ บอยสเก๊าท์ ไปไว้ที่วัดสายไหม เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป