svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเงิน-การลงทุน

เช็กราคาทองคำสัปดาห์หน้า ! ทะยานต่อแค่ไหน

ราคาทองคำในเดือนต.ค.ที่ผ่านมาดีดปรับตัวขึ้น 136.40 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์หนุนทองแท่งปรับขึ้น 1,650 บาท ทุบ  All Time High แตะระดับ 34,250 บาท ส่วนแนวโน้มในสัปดาห์หน้าจะเป็นอย่างไรจะพุ่งต่อหรือไม่ ตามไปดูข้อมูลกันเลย 

นายวรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จํากัด  เปิดเผยถึงทิศทางทองคำในสัปดาห์นี้กับ Nation Online ว่า  ราคาทองคำช่วงเดือน ต.ค. ที่ผ่านมาขึ้น 136.40 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์  โดยราคาลงไปแตะระดับต่ำสุดของเดือนต.ค.ที่ 1,848 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์  และ ขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 1,984 ดอลลาร์ต่อออนซ์  

ทั้งนี้ราคาทองคำแท่ง 96.5 % ของไทยช่วงเดือน ต.ค. ที่ผ่านมาขึ้น 1,650 บาท โดยราคาลงไปแตะระดับต่ำสุดของเดือนต.ค.ที่ 31,800 บาท   และขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 34,250 บาท

โดยราคาทองคำปรับตัวขึ้นจากสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มติดอาวุธฮามาส ขณะที่เฟดไม่ได้ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งเป็นตามคาด ราคาทองคำจึงไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ทองคำในช่วงที่เหลือของปี อาจขึ้นอยู่กับผลการประชุมครั้งถัดไป โดยเฟดยังไม่ได้ทำการตัดสินใจใด ๆ

เช็กราคาทองคำสัปดาห์หน้า ! ทะยานต่อแค่ไหน

สำหรับการประชุมเดือนธันวาคม และแม้ว่าจะเลือกที่จะหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยชั่วคราว(pause)เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะการเริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งจะยากขึ้น

ซึ่งหากสถานการณ์สงครามทวีความรุนแรงขึ้น ราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ นับตั้งแต่กลุ่มฮามาสบุกข้ามพรมแดนโจมตีอิสราเอลในวันที่ 7 ต.ค.จนถึงปัจจุบันราคาขึ้นจาก 1,832  ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์มาสู่ ระดับ 1,987 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์หรือ ปรับตัวขึ้นมาประมาณ 155  ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

ปัจจัยบวกลบที่ต้องติดตาม


-การเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ จะมีการ ปรับเวลา ช้าลง 1 ชั่วโมงจากเดิม เนื่องจากกำลังเข้าสู่ฤดูหนาว โดยมี ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ เช่น ดุลการค้าเดือนก.ย. ,สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.ย.  ,จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

-การประชุม "Global Financial Leaders Investment Summit" ที่ฮ่องกง จะผู้บริหารธนาคารและบริษัทจัดการสินทรัพย์ทั่วโลกจะเข้าร่วม อาจมีการแสดงท่าที ต่อเศรษฐกิจจีนกำลังชะลอตัวลง และมีความเสี่ยงที่ความสัมพันธ์อันตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนจะทำให้เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงอีกในอนาคต

- การเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจจีน เช่น  ยอดนำเข้า, ส่งออก และดุลการค้าเดือนต.ค.และ  ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนต.ค. เพื่อบ่งชี้ถึงทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน

- ความคืบหน้านโยบายดิจิทัลวอลเล็ตว่า โดยนายกรัฐมนตรีและรมว.คลังจะมีการประชุมภายในก่อน ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยจะมีการประชุมอนุกรรมการ หลังจากนั้นจะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ ซึ่งอยากให้จบภายในวันที่ 10 พ.ย. ให้ได้ อาจส่งผลการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท

ส่วนแนวโน้มทองคำสัปดาห์หน้าคาดว่า ไซด์เวย์อัพ  โดยแนวโน้มขาขึ้น เนื่องจากสงครามยังทวีความรุนแรงและยืดเยื้อ ยกเว้นสถานการณ์สงครามคลี่คลายจะทำให้ราคาทองคำปรับตัวลง  ขณะที่เฟดจบดอกเบี้ยขาขึ้นเป็นแรงหนุนทองคำนช่วงนี้

ด้านกลยุทธ์การลงทุน ราคาทองคำมีการดีดตัวขึ้นแรง แม้ว่าจะมีแรงขายทำกำไรสลับเข้ามาบ้าง แต่หากราคาปรับตัวขึ้นจำกัดจะทำให้มุมมองเชิง ของราคาจะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway up แนะนำ พิจารณาโซน 1,978-1,971 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ในการเปิดสถานะซื้อ  (ตัดขาดทุนหากราคาหลุด 1,971 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ) ขณะที่การปิดสถานะซื้อเพื่อทำกำไรรอการปรับตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านโซน 1,991-2,003 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์