นายวรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จํากัด เปิดเผยถึงทิศทางราคาทองคำสัปดาห์นี้กับ Nation Online ว่า ปริมาณการซื้อขายทองคำตลาดโลกอาจเบาบางลง เนื่องจากตลาดสหรัฐจะปิดทำการเนื่องในวันทหารผ่านศึก (Memorial Day) ในวันจันทร์ที่ 29 พ.ค.นี้
นอกจากนี้ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 31 พ.ค.นี้ มีโอกาสที่ กนง.จะปรับขึ้น ดอกเบี้ยอีก 0.25% ทั้งนี้ กนง. มีแนวโน้มที่จะคงดอกเบี้ยที่ระดับ 2.00% ไปตลอดปีนี้ หากเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวได้ต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลังตามที่คาดการณ์ไว้ โดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ กนง. อาจส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่า ซึ่งจะส่งผลต่อราคาทองคำในประเทศ
สำหรับการเจรจาขยายเพดานหนี้สหรัฐ จะบรรลุข้อตกลงในการเพิ่มเพดานหนี้ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ของสหรัฐ หลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ที่ร้ายแรง ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ หรือไม่ Fitch Ratings, Moody's, S&P Global ซึ่งเป็นสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ประเมินถึงความเสี่ยงที่จะมีการผิดนัดชำระหนี้ เพิ่มขึ้น หากไม่สามารถขยายเพดานหนี้สหรัฐ จนเกิดการผิดนัดชำระหนี้ได้ ราคาอาจได้รับแรงหนุนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย กลับขึ้นไปเคลื่อนไหว เหนือ 1,933 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ปัจจุบันนักลงทุนเชื่อว่าตกลงกันได้)
พร้อมเกาะติดตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐ ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ค.จาก ADP ,จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ร่วมทั้ง ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ,อัตราการว่างงาน และ รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงเดือนพ.ค.รวมถึงกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส จะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตในวันที่ 4 มิ.ย.นี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่าโอเปกพลัสอาจจะปรับลดกำลังการผลิต
ส่วนคำแนะนำสัปดาห์นี้เปิดสถานะขายทำกำไรระยะสั้น เมื่อราคาปรับตัวขึ้นไม่สามารถยืนเหนือโซนแนวต้าน 1,954-1,972 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตัดขาดทุนหากราคาผ่านแนวต้านบริเวณ 1,972 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทยอยปิดสถานะขายทำกำไรหากราคาไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,933 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากยืนไม่อยู่ประเมินแนวรับถัดไปโซน 1,914-1,891 ดอลลาร์ต่อออนซ์