svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเงิน-การลงทุน

เปิดโพย 8 หุ้นเด่น "หลังเลือกตั้ง" ตัวไหนแจ่มน่าลงทุน !

15 พฤษภาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

โบรกประสานเสียงหุ้นไทยหลังเลือกตั้ง 1 สัปดาห์จากสถิติย้อนหลังในอดีตให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 2.6-2.77% ชี้กลุ่มโดดเด่นสุดคือค้าปลีก แต่จากนั้น 1 เดือนผลตอบแทนเริ่มน้อยลงและ 3 เดือนติดลบ จับตารัฐบาลชุดใหม่ครองเสียงข้างมากในสภาได้หรือไม่ เกาะติดจีดีพีไตรมาส 1/66

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย (PI)  เปิดเผยถึงทิศทางตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้กับ Nation Online ว่า  จากสถิติ หลังการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทย 1 สัปดาห์ SET INDEX  ให้ผลตอบแทนเด่นราว 2.6% (เฉลี่ยจากการเลือกตั้ง 4 ครั้งของไทย) โดยกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนโดดเด่นสุด ได้แก่ ค้าปลีก 1 สัปดาห์หลังการเลือกตั้งให้ผลตอบแทนราว 3.3%

อย่างไรก็ตาม หลังการเลือกตั้งประมาณ 1 เดือนผลตอบแทนเริ่มน้อยลงและ 3 เดือนผลตอบ แทนติดลบ โดยปัจจัยเลือกตั้งเราเชื่อว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นระยะสั้น (ไม่เกินกว่า 1 เดือน) โดยที่ต้องติดตาม ได้แก่ รัฐบาลชุดใหม่จะครองเสียงข้างมากในสภาได้หรือไม่ หากครองเสียงมากข้างมากได้ก็เชื่อว่าจะเป็นอีกปัจจัยหนุนตลาดหุ้น

อย่างไรก็ตาม ระยะกลางถึงยาวปัจจัยที่มีผลกับตลาดหุ้นมากสุดคือ ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ซึ่งปัจจุบันพบว่าประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของโลกอย่างสหรัฐฯ กำลังเริ่มประสบปัญหาระยะกลางขึ้นไปจึงเป็นไปได้ที่การขยายตัวของผลประกอบการจะเผชิญกับความเสี่ยงและย้อนกลับมากดดันตลาดหุ้น

ส่วนสัปดาห์นี้นักลงทุนจะให้น้ำหนักกับ 1. ยอดค้าปลีกของสหรัฐฯในคืนวันอังคาร Bloomberg ประเมินขยายตัว 0.8%MoM จากเดือนก่อนหน้าหดตัวลง 1%MoM 2.คืนวันศุกร์ประธานธนาคารกลางสหรัฐ มีกำหนดแถลงที่ Washington DC ในหัวข้อมุมมองเกี่ยวกับนโยบายการเงินเชื่อว่าตลาดจะจับตารอดูถ้อยแถลงด้านดอกเบี้ย ซึ่งล่าสุด ตลาดเริ่มมองถึงโอกาสคงดอกเบี้ย

 

สำหรับในประเทศรอติดตาม GDP 1Q23 ในวันจันทร์ Bloomberg ประเมินไว้ที่ 2.3%YoY หากรายงานแล้วสูงกว่าประเมินไว้จะเป็นปัจจัยหนุนให้กับตลาดหุ้นอื่น ๆ ได้แก่ ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนข้อมูลล่าสุดจาก Bloomberg พบว่า รายงานออกมาแล้วราว 417 บริษัท (78% Market Cap) ของ SET INDEX พบว่ามีกำไรสุทธิรวมกันที่ 2.4 แสนล้านบาท (+80%QoQ +11%YoY)

โดยสาเหตุที่ขยายตัวเด่น QoQ ผลจาก SCC ที่ฐานกำไรต่ำในช่วง 4Q22 และ 1Q23 มีกำไรพิเศษรวมถึง TOP ที่ฟื้นตัวเด่นจากค่าการกลั่นและขาดทุนสต็อกที่ลดลง

อย่างไรก็ตาม ประเมิน SET INDEX สัปดาห์นี้มีโอกาสปรับขึ้นในกรอบ 1,550 – 1,600 จุด แรงหนุนจากการเลือกตั้ง Top Pick เลือก CPALL (TP 72) Makro (49) BBL (TP 190) KBANK (TP 160) COM7 (TP 45)

นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์  ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บล.กรุงศรีพัฒนสิน เปิดเผยกับ Nation Online ว่า จากข้อมูลย้อนหลังหากอิงสถิติ 1 สัปดาห์หลังเลือกตั้ง 5 รอบ ล่าสุด SET ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย +2.77% (ความเป็นไปได้ที่เป็นบวก 100%) หุ้นน่าเก็งกาไร ADVANC, SC, CPALL, GLOBAL, GULF, AMATA, SAWAD  

ส่วนหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ประเมินตลาดหุ้นไทยแกว่งไซด์เวย์-ไซด์เวย์อัพ ประเมินแนวรับแรกที่ 1,537 จุด แนวรับถัดไปที่ 1,518 จุด แนวต้านแรกที่ 1,576 จุด แนวต้านถัดไปที่ 1,591 จุด 

สำหรับปัจจัยหนุนจากมาจาก ภายนอกและในประเทศ คือ หลังวงจรดอกเบี้ยขาขึ้นเป็นปลายทาง การติดตามเศรษฐกิจ รายภูมิภาค ฝั่ง EM Asia จะฟื้นตัวชัดกว่า ตลาดประเทศพัฒนาแล้ว (DMs) และภายในเป็นภาพความคาดหวังเชิง บวกหลังเลือกตั้งต่อการนำของรัฐบาลชุดใหม่ ท้ัง 2 ส่วนจะช่วยต่อยอดภาพบวกกำไร ตลาด 1Q23F เกิน 2.5 แสนล้านบาท  

 อย่างไรก็ตาม  ปัจจัยภายนอกที่จะต้องติดตามคือ  ยอดเริ่มต้นสร้างบ้านสหรัฐฯ เดือน เม.ย.ในวันที่ 17 พ.ค. ตลาดคาด -1.7% วันที่ 18 พ.ค. ยอดขายบ้านมือสอง ตลาดคาด -3.6% ยอดขออนุญาตสร้างบ้าน ตลาดคาด -0.2% ในวันที่ 20 พ.ค.  รวมถึงยอดค้าปลีกสหรัฐฯ วันที่ 23 พ.ค. ตลาดคาด +0.7%  ขณะที่จีนติดตามยอดค้าปลีกวันที่ 16 พ.ค. คาด +22.0% y-y  ประเมินบวกต่อหุ้นที่อิงการฟื้นตัวเศรษฐกิจจีน เช่น SCGP เป็นต้น

นอกจากนี้ติดตาม การประชุมเพื่อแก้ปัญหาเพดานหนี้สหรัฐของนายโจ ไบเดน และผู้นำสภาบนและสภาล่างจากที่เลื่อนออกไปจากสัปดาห์ก่อน อาจสร้างความผันผวนต่อหุ้นโลก

ฝั่งไทยติดตามการประกาศตัวเลขจีดีพีวันที่ 15 พ.ค. ตลาดคาด 2.3% y-y  และ 1.8%q-q   หนุนภาพบวก SET Index และหุ้นกลุ่มธนาคาร และเกาะติดผลการเลือกตั้งไทยคร้ังที่ 27 การประกาศงบไตรมาส 1/66 รายงานกำไร AMATA, SAWAD, SIRI, CRC, CPN, ERW, CK, STEC, GULF, SIRI มองหุ้นน่าสนใจ SAWAD, CRC, GULF, SIRI

สำหรับหุ้นเด่นสัปดาห์นี้แนะนำ

• ADVANC(TP252.0) : ได้ประโยชน์ช่วงต้น TRUE รวม DTAC และโครงสร้างอุต ฯ หลังจากนั้น Valuation จูงใจ ซื้อขาย EV/EBITDA 8 เท่า (-1 SD)

• ICHI(TP15.6) : กำไร+มีแนวโน้มเร่งต่อเนื่อง PER23F อยู่โซนลงทุนได้ ลดลง เหลือ 22 เท่า vs ค่าเฉลี่ยกลุ่ม 25-30 เท่า

• KBANK(TP160) : ลุ้นภาพบวก Fund Flow ต่างประเทศ หลังเลือกตั้ง GDP เร่ิมฟ้ืนเร่งข้ึน ขณะท่ี PBV23F อยู่ที่ 0.6 เท่า (-1.0 SD ของค่าเฉลี่ย)

logoline