svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเงิน-การลงทุน

จับตาสหรัฐฯ "ขยายเพดานหนี้" ชี้ยืดเยื้อป่วนโลก

07 พฤษภาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กรุงไทยประเมินเงินบาทสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหวในกรอบ 33.50-34.20 บาทต่อดอลลาร์ จับตาเงินเฟ้อ -การเจรจาขยายเพดานหนี้สหรัฐฯ ยืดเยื้อหรือไม่  ส่วนในประเทศคาดนักลงทุนลุ้นรอผลการเลือกตั้ง ขณะที่กสิกรไทยมองกรอบ 33.80-34.30 บาทต่อดอลลาร์เกาะติดวิกฤตแบงก์ต่างประเทศ

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าเงิน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยกับ Nation Online ว่า เงินบาทสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหวในกรอบ 33.50 - 34.20 บาทต่อดอลลาร์ โดยแนวโน้มเคลื่อนไหวไปตามทิศทางของทั้งเงินดอลลาร์และราคาทองคำ

ซึ่งต้องปัจจัยที่ต้องติดตามคือ รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ ผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ(BOE) และรายงานการประชุมล่าสุดของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) รวมถึงปัจจัยการเมืองสหรัฐฯ ในประเด็นการเจรจาขยายเพดานหนี้ (Debt Ceiling) หากยืดเยื้อจะเป็นปัจจัยที่กดดันบรรยากาศในตลาดการเงิน-ตลาดทุนได้

สำหรับปัจจัยในประเทศ เรามองว่าต้องจับตา ทิศทางเม็ดเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติทั้งตลาดหุ้นและตลาดบอนด์ เนื่องจากจะเริ่มเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง  โดยปกตินักลงทุนต่างชาติจะอยู่ในภาวะ wait and see เพื่อรอผลการเลือกตั้ง ทำให้ฟันด์โฟลว์ในส่วนของหุ้นนั้นอาจไม่ได้มีทิศทางที่ชัดเจน นอกจากนี้ ควรจับตาปริมาณธุรกรรมซื้อเงินดอลลาร์ เพื่อจ่ายปันผลให้กับนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงได้บ้าง

จับตาสหรัฐฯ \"ขยายเพดานหนี้\" ชี้ยืดเยื้อป่วนโลก

ส่วนสหรัฐฯ ไฮไลท์สำคัญ คือ รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ รวมถึง รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค โดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน (U of Michigan Consumer Sentiment) นอกจากนี้ ตลาดจะรอจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟดในระยะถัดไป

ขณะที่ยุโรป ตลาดจะรอจับตาผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) และถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) หลังจากที่ ECB ได้เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยนโยบายและยังส่งสัญญาณพร้อมเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง

ทางด้านเอเชีย ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ผ่านรายงานยอดการส่งออกและนำเข้า นอกจากนี้ ตลาดจะรอจับตารายงานการประชุมล่าสุดของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) หลังจากที่ BOJ ได้ย้ำจุดยืนใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อ แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมายก็ตาม ส่วนในฝั่งไทย ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Consumer Confidence) รวมถึงรอลุ้นรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน  

ธนาคารกสิกรไทยระบุว่า มองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทสัปดาห์หน้าที่ระดับ 33.80-34.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์แบงก์ และปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ทิศทางเงินทุนต่างชาติและการเคลื่อนไหวของสกุลเงินในภูมิภาค

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนเม.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นและตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในมุมมองของผู้บริโภคเดือนพ.ค. (เบื้องต้น) ตลอดจนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามผลการประชุม BOE และตัวเลขเศรษฐกิจเดือนเม.ย.ของจีน อาทิ ข้อมูลการส่งออก ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต และยอดปล่อยกู้ใหม่สกุลเงินหยวน

 

logoline