svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเงิน-การลงทุน

"กลุ่มปตท." ควักกระเป๋าจ่ายปันผล 1.15 แสนล้านบาท

11 มีนาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กลุ่มปตท.ประกาศจ่ายปันผลกันคึกคัก หลังจากประกาศงบปี 65 ไปเป็นที่เรียบร้อย โดยเป็นการจ่ายจากผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง รวม 48,027 ล้านบาท หนุนวงเงินจ่ายปันผลทั้งปี ทะลัก 115,511 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,273 ล้านบาท จากปีก่อนหน้า  

ผ่านพ้นไปเรียบร้อยแล้วสำหรับการประกาศงบปี 65 ของกลุ่มปตท. ซึ่งงบบางบริษัทก็เติบโตได้โดดเด่น จากที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ธุรกิจเพิ่งเริ่มสร่างไข้ หลังจากที่ผ่านพ้นวิกฤติโควิดกันมาอย่างยากลำบาก  แต่บางบริษัทก็อาจจะพลาดเป้าสร้างความผิดหวังให้นักลงทุนไปบ้าง แต่ผู้ถือหุ้นของบริษัทในกลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่ของไทยกลุ่มนี้ ก็ยังคงได้รับเงินปันผลจากกำไรในปี 65 ติดไม้ติดมือกันไปถ้วนหน้า

ทั้งนี้จากการรวบข้อมูลกลุ่มปตท. จำนวน 7 บริษัท  หลังจากประกาศงบปี 65  ได้ประกาศจ่ายปันผลกันคึกคักคิดเป็นวงเงินรวม 115,511 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,273 ล้านบาท จากปี 64 ที่จ่ายปันผลรวม 113,238 ล้านบาท  แบ่งเป็นการจ่ายปันผลระหว่างกาล ( ม.ค.-มิ.ย.65) ไปแล้ว 67,484 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่จ่ายปันผล  58,639 ล้านบาท ดังนั้นคงเหลือเงินปันผลที่จะจ่ายช่วงที่เหลือ (ก.ค.-ธ.ค.65) วงเงินรวม 48,027 ล้านบาท เทียบช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่  54,599 ล้านบาท  ส่วน บริษัทฯไหนจ่ายกันเท่าไหร่ตามไปดูกันเลย

เริ่มจาก "PTT" บมจ. ปตท. ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจําปี 2566 ในวันพุธที่ 12 เม.ย. เวลา 13.30 น. ในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-Meeting) เพียงรูปแบบเดียว เพื่อพิจารณาอนุมัติการจัดสรรกําไรสุทธิและการ จ่ายเงินปันผลสําหรับผลประกอบการปี2565 ในอัตราหุ้นละ 2.00 บาท จํานวน 28,562,996,250 หุ้น รวมเป็นจํานวน 57,126 ล้านบาท

ซึ่งเมื่อหักเงินปันผลระหว่างกาล สําหรับผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 1.30 บาท ซึ่งคิดเป็นจํานวนเงิน 37,132 ล้านบาท ที่ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลดังกล่าวให้กับผู้ถือหุ้น เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 65 และมีเงินปันผลที่จะจ่ายสําหรับผล ประกอบการครึ่งหลังของปี 2565 อีกในอัตราหุ้นละ 0.70 บาท คิดเป็นจํานวนเงิน 19,994 ล้านบาท จ่ายปันผล 28 เม.ย.

ถัดมาคือ "PTTEP"  บมจ. ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม   ประชุมสามัญผู้ถือวันที่ 3 เม.ย. เวลา 14.30 น. ในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-Meeting) โดยขออนุมัติจากที่ประชุมฯ พิจาณาจ่ายปันผลปี 65  ในอัตราหุ้นละ 9.25 บาทจำนวน 3,969,985,400 หุ้น  วงเงิน 36,772 ล้านบาท โดย บริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวด 6 เดือนแรกของปี65 ไปแล้วในอัตราหุ้นละ 4.25 บาท คิดเป็นเงิน 16,872 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ ต้องจ่ายที่เหลืออีกในอัตราหุ้นละ 5.00 บาท  วงเงิน 19,850 ล้านบาท จ่ายปันผลวันที่ 24 เม.ย.  

ขณะที่ "PTTGC"  บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล  กำหนดวันประชุมสามัญ ผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ในวันศุกร์ที่ 7 เม.ย. เวลา 09:00 น. ในรูปแบบการประชุม ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์(E-AGM)  พิจารณาอนุมัติการจัดสรรเงินกำไร สำหรับผลการดำเนินงาน ประจำปี 2565 และให้บริษัทฯ จ่ายเงินปันผลสำหรับ ปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 1.00 บาท คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 4,509 ล้านบาท

ซึ่งบริษัทฯ ได้จ่ายเป็นเงินปันผลระหว่างกาลไป เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.75 บาท คิดเป็นเงินประมาณ 3,382 ล้านบาท คงเหลือเงินปันผล ที่จะจ่ายเพิ่มในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท หรือคิดเป็นเงินประมาณ 1,127 ล้านบาท จ่ายปันผล 26 เม.ย.

 

ส่วน "TOP"  บมจ.ไทยออยล์  กำหนดให้จัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566ในวันจันทร์ที่ 10 เม.ย. เวลา 14.00 น. ในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-AGM) โดยจะขออนุมัติการจ่ายเงินปันผลประจำปีสำหรับผลการดำเนินงานในช่วงเดียวกัน ภายหลังการจัดสรรเป็นทุนสำรองเพิ่มเติมตามกฎหมายแล้ว ในอัตราหุ้นละ 3.70 บาท จำนวน 2,233,835,566 หุ้น รวมเป็ น เงินประมาณ 8,265ล้านบาท

ซึ่งเมื่อหักเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับผลประกอบการ 6 เดือนแรกของปี 2565 อัตราหุ้นละ 2.00 บาท คิดเป็นจำนวนเงินประมาณ 4,468 ล้านบาท ที่ได้จ่ายให้กับผู้ถือหุ้น เมื่อวันที่ 25 พ.ย.65 แล้วคงเหลือเป็นเงินปันผลที่จะจ่ายสำหรับผลประกอบการ 6 เดือนหลังของปี 65 อีกในอัตราหุ้นละ 1.70 บาท คิดเป็นเงินประมาณ 3,798 ล้านบาท ขึ้นเครื่องหมาย XD 23 ก.พ. จ่ายปันผล 27 เม.ย.

สำหรับ "OR"  บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ในวันที่ 5 เม.ย. เวลา 14.00 น. โดยเป็นการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์เพียงรูปแบบเดียว เพื่ออนุมัติการจัดสรรกำไรสุทธิและ จ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานของปี 2565 ที่อัตรา 0.50 บาทต่อหุ้น สำหรับหุ้นสามัญของบริษัทฯ จำนวน 12,000,000,000 หุ้น รวมจำนวน 6,000 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 57.9% ของกำไรสุทธิตาม งบการเงินรวม

ทั้งนี้เมื่อหักเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2565 (ระหว่างวันที่ 1 ม.ค.65 – 30 มิ.ย.65) ที่อัตรา 0.35 บาทต่อหุ้น จำนวน 4,200 ล้านบาทแล้ว จะคงเหลือเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานครึ่งหลังของปี 2565 (ระหว่างวันที่ 1 ก.ค.65– 31 ธ.ค.) ที่จะจ่ายที่อัตรา 0.15 บาทต่อหุ้น จำนวน 1,800 ล้านบาท โดยจะจ่ายจากกำไรสะสมของบริษัทฯ ที่ยังไม่ได้ จัดสรรในส่วนของกำไรสุทธิที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตรา 20% จ่ายปันผล 28 เม.ย.

ขณะที่ "GPSC" บมจ.โกลบอลเพาเวอร์ซินเนอร์ยี่ ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น วันที่ 31 มี.ค. เวลา 14.00 น. ในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์(E-AGM)  เพื่อขออนุมัติการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ประจำปี 65 ในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท รวมเป็นเงิน  1,409,864,683.50 บาท คิดเป็ นสัดส่วนประมาณ 158 % ของกำไรสุทธิตามงบการเงินรวม

ทั้งนี้เมื่อหักเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับผลประกอบการครึ่งแรกของปี2565 ในอัตรา หุ้นละ 0.20 บาท รวมเป็นเงิน 563,945,873.40 บาท จะยังคงเหลือส่วนเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานครึ่งหลัง ของปี 2565 (1 ก.ค. - 31 ธ.ค.65) ที่จะจ่ายในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท รวมเป็นเงิน 845,918,810.10 บาท จ่ายปันผล 19 เม.ย.

ปิดท้ายที่ "IRPC" บมจ.ไออาร์พีซี ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นวันที่ 5 เม.ย. เวลา 9.30 น. โดย เป็นประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-Meeting)พิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับงบปี 65 โดยจัดสรรจากกำไรสะสมส่วนที่ยังไม่ได้จัดสรร ณ วันที่ 31 ธ.ค.65 ในอัตราหุ้นละ 0.07 บาท (ซึ่งเป็นอัตราการจ่ายปันผลรวมตลอดทั้งปี 2565) หรือ คิดเป็นเงินประมาณ 1,430 ล้านบาท

โดยเมื่อหักกับเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลประกอบการ 6 เดือนแรกของปี 65 ที่ได้จ่ายให้กับผู้ถือหุ้นแล้วเมื่อวันที่ 19 ต.ค.65(ในอัตราหุ้นละ 0.04 บาท เป็นเงินประมาณ 817 ล้านบาท) คงเหลือเงินปันผลที่จะจ่ายสำหรับผลประกอบการ 6 เดือนหลัง ของปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.03 บาท คิดเป็นเงินประมาณ 613 ล้านบาท จ่ายปันผล 26 เม.ย.

แม้ผลประกอบการและผลตอบแทนจากราคาหุ้นของบางบริษัทในกลุ่ม ปตท. อาจจะออกมาไม่ดีนักในช่วงที่ผ่านมา แต่ด้วยศักยภาพในการจ่ายเงินปันผลที่ยังมีอยู่ต่อเนื่อง ก็เป็นตัวสะท้อนว่า ผลตอบแทนจากเงินปัน ผล ยังเป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจที่นักลงทุนควรนำมาพิจารณา ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่ยังหน้าสิ่วหน้าขวานอย่างต่อเนื่องในปีนี้ เพียงแต่ต้องคัดและเลือกให้ดีว่า บริษัทที่จะเข้าลงทุนนั้น มีศักย ภาพการเติบโตเพียงพอ ที่จะทำกำไรและจ่ายปันผลได้ต่อเนื่อง เพื่อการสร้างผลตอบแทนโดยรวมที่ดีต่อไปได้ในระยะยาว

"กลุ่มปตท." ควักกระเป๋าจ่ายปันผล 1.15 แสนล้านบาท

"กลุ่มปตท." ควักกระเป๋าจ่ายปันผล 1.15 แสนล้านบาท

logoline