รายงานข่าวจากสมาคมค้าทองคำแจ้งว่า ราคาทองคำขึ้น 50 บาท โดยราคา gold spot นิวยอร์กอยู่ที่ 1,935 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากเดิมอยู่ที่ 1,926.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ค่าเงินบาทแตะระดับ 32.64 บาทต่อดอลลาร์ จากเดิมอยู่ที่ 32.73 บาทต่อดอลลาร์
ราคาทองคำแท่งซื้อบาทละ 29,800 บาท ขายออกบาทละ 29,900 บาท
ราคาทองรูปพรรณซื้อบาทละ 29,258.80 บาท ขายออกบาทละ 30,400 บาท
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (20 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลออัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ย
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 4.3 ดอลลาร์ หรือ 0.22% ปิดที่ 1,928.2 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และปรับตัวขึ้น 0.3% ในรอบสัปดาห์นี้ซึ่งเป็นการบวกขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกัน และยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2563
สัญญาทองคำปรับตัวขึ้น หลังนายแพตทริก ฮาเคอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเปิดเผยในวันศุกร์ว่า เขาคาดว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% นั้นเหมาะสม หลังเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุกในปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้แรงหนุนจากการที่บรรดานักลงทุนเริ่มวิตกเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านการปล่อยสินเชื่อในภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐ และการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยในวันศุกร์ว่า ยอดขายบ้านมือสองลดลง 1.5% สู่ระดับ 4.02 ล้านยูนิตในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2553 แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.96 ล้านยูนิต โดยเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกัน เมื่อเทียบรายปี ยอดขายบ้านดิ่งลง 34.0% ในเดือนธ.ค. โดยยอดขายบ้านมือสองได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของราคาบ้านและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง
นอกจากนี้สัญญาทองคำยังปรับตัวขึ้นจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินครั้งแรกของปีนี้ นักลงทุนให้น้ำหนักเกือบ 100% ในการคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการประชุมนโยบายการเงินนัดแรกของเฟดในปีนี้ หลังดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐต่างบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 97.2% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ. หลังจากที่ก่อนหน้านี้ให้น้ำหนัก 76.7% ทั้งนี้ การชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะกดดันให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง ซึ่งจะเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง
โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น ๆ นอกจากนี้ ราคาทองยังได้ปัจจัยบวกในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ ซึ่งแม้เงินเฟ้อจะชะลอตัวลง แต่ก็ยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลาง