น.ส. รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแลโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยกับ Nation Online ว่า เงินบาทสัปดาห์หน้าคาดว่า กรอบเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 33.60-34.30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่กระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายที่มาพักในพันธบัตรระยะสั้นมีลักษณะเข้าออกเร็ว
ส่วนความเสี่ยงด้านขาลงของภาคส่งออกเปิดกว้าง ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจหลักถดถอย หลังจากคุมเข้มนโยบายการเงินอย่างแข็งกร้าวในปีที่ผ่านมา ขณะที่ดอลลาร์อาจฟื้นตัวขึ้นระหว่างทาง (แม้จะไม่ทำจุดสูงสุดใหม่) หากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯบ่งชี้ว่าภาวะเงินเฟ้อลดลงช้า
ซึ่งอาจทำให้ตลาดทบทวนมุมมองที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)จะลดดอกเบี้ยในช่วงปลายปีนี้ โดยวันที่ 12 ม.ค. สหรัฐฯจะประกาศเงินเฟ้อเดือน ธ.ค. คาดเงินเฟ้อทั่วไปชะลอลงมาที่ 6.6% และพื้นฐาน 5.7%
สำหรับการเคลื่อนไหวของสกุลเงินในภูมิภาค 3 ม.ค.-6 ม.ค.66 พบว่า บาท-ไทยแข็งค่ามากสุด 1.69% รองลงมาคือ ดอง-เวียดนาม 0.69% หยวน-จีน 0.64% ริงกิต-มาเลเซีย 0.21% เปโซ-ฟิลิปปินส์ 0.19% รูปี-อินเดีย 0.12% ยกเว้นรูเปียห์-อินโดนีเซียอ่อนค่า 0.44% ดอลลาร์-สิงคโปร์ 0.44% วอน-เกาหลีใต้ 0.26% ดอลลาร์-ไต้หวัน 0.02%
“เงินบาทแข็งค่า 1.69% ในปีนี้ ระหว่างสัปดาห์แตะระดับแข็งค่าสุดรอบ 8 เดือน เร็วและแรงกว่าภูมิภาคจากการที่นักลงทุนต่างชาติเข้ามาพักเงินไว้ในพันธบัตรระยะสั้น อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันที่ 3-5 ม.ค. 66 ต่างชาติซื้อหุ้นไทย 2.8 พันล้านบาท และพันธบัตร 3.5 หมื่นล้านบาท”
นอกจากนี้ ผู้ร่วมตลาดมี sentiment เชิงบวกต่อการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว หลังจีนประกาศคลายล็อกเร็วกว่าคาด อีกทั้งราคาทองคำในตลาดโลกที่พุ่งขึ้น กระตุ้นแรงส่งออกทองของกลุ่มผู้ค้าทองในประเทศ เร่งการแข็งค่าของเงินบาทอีกทางหนึ่ง ทางด้านราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ร่วงลง เป็นผลดีต่อดุลการค้าของไทยเช่นกัน