svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ธุรกิจ-การตลาด

“อิชิตัน” รุกตลาด Non-Tea พุ่งเป้าสู่ยอดขายหมื่นล้าน

ICHI  เพิ่มไลน์การผลิต 100 ล้านขวดต่อเดือน รับดีมานด์พุ่ง สยายปีกรุกตลาด Non-Tea เพิ่ม วางแผนปี 68 ดันยอดขายแตะหมื่นล้านบาท  พร้อมมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 93

ตลาดชาเขียวพร้อมดื่มปีนี้จะเติบโต  17-18% จากปี 66 ที่มูลค่าตลาดประมาณ 16,000 ล้านบาท  เติบโตเพิ่มขึ้น 22% จากปี 65 เนื่องจากกระแสรักสุขภาพคนไทยมาแรง ขณะที่ตลาดมีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง เพราะมีแบรนด์ในตลาดอยู่จำนวนมาก ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น ขณะเดียวกันผู้ประกอบการธุรกิจก็ต้องมีการพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาดไม่ให้คู่แข่งช่วงชิงไปได้ 

ล่าสุด "นายตัน ภาสกรนที" กรรมการผู้อำนวยการ บมจ. อิชิตัน กรุ๊ป (ICHI)  ได้ประกาศแผนงานปีนี้  ตั้งเป้ารายได้ที่ 9,000 ล้านบาท และรักษาอัตรากำไรชั้นต้นไม่น้อยกว่า 23% โดยการบริหารต้นทุนในปี 2567 วางแผนกำลังการผลิตอย่างน้อย 100 ล้านขวดทุกเดือน ควบคู่ไปกับการเร่งติดตั้งไลน์การผลิตใหม่ ซึ่งมีกำลังการผลิตเพิ่มอีก 200 ล้านขวดต่อปี คาดจะเริ่มผลิตได้ในไตรมาส 4/67

ทั้งนี้ส่งผลให้กำลังการผลิตรวมเป็น 1,700 ล้านขวดต่อปี  จากปัจจุบัน 1,500 ล้านขวดต่อปี  เพื่อรองรับโอกาสในตลาดใหม่ ดีมานด์ใหม่ที่เพิ่มขึ้นในอนาคต เตรียมพร้อมเดินหน้าสู่เป้าหมายยอดขาย 1 หมื่นล้านบาทในปี 68

“อิชิตัน” รุกตลาด Non-Tea พุ่งเป้าสู่ยอดขายหมื่นล้าน

นอกจากนี้ได้ประกาศภารกิจใหม่ ด้วยการกำหนดแผนการมุ่งไปสู่องค์กรที่มีการผลิตแบบความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2593 โดย อิชิตัน กรีน แฟคทอรี ที่ให้ความสำคัญกับการผลิตอย่างรับผิดชอบ ปัจจุบันสินค้าทุกขวดของอิชิตัน สามารถลดปริมาณการใช้พลาสติกลงได้ถึง 28.5% (เมื่อเทียบกับการผลิตแบบดั้งเดิม) เทียบเท่ากับช่วยลดปริมาณการใช้พลาสติกได้ถึง 7,000 ตันต่อปี 


ขณะเดียวกันในปีนี้กำลังเร่งแผนพัฒนาขวดบรรจุภัณฑ์เป็น Eco Packaging และจะมีการนำ rPET (Recycled Plastic)  หรือพาสติกรีไซเคิล ที่พร้อมสำหรับนำกลับเข้าสู่ Circular Economy  หรือหมุนเวียน ไม่น้อยกว่า 30% เข้าไปทดแทนพลาสติกใหม่ในการผลิตผลิตภัณฑ์ อิชิตัน กรีนที 500 มล. ช่วยลดปริมาณขยะ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก

ส่วนผลการดำเนินงานปี 2566 กวาดรายได้ 8,050 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากปีก่อนที่มีรายได้ 6,340 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิเกินเป้าหมาย โดยมีกำไรสุทธิ 1,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71% จากปี 65 กำไรสุทธิ 642 ล้านบาท
โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงอยู่ที่ 23.4% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 18.7%

อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในปีที่ผ่านมาจากสินค้าในเครืออิชิตันที่เติบโตในทุกเซกเมนท์ โดยเฉพาะ "อิชิตัน กรีนที ขวดปากกว้าง" 500 มล. ที่ยอดขายเติบโต 40.33% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่สินค้ากลุ่ม Non-Tea อาทิ "น้ำด่าง อิชิตัน" สามารถขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้นจากการทำกิจกรรม On Ground ทั่วประเทศตลอดปี และการสื่อสารคุณประโยชน์ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ารักสุขภาพจนซื้อประจำซื้อติดบ้านเพื่อดื่มทุกวัน ทำให้ยอดขายเติบโตมาก ถึง 77.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
“อิชิตัน” รุกตลาด Non-Tea พุ่งเป้าสู่ยอดขายหมื่นล้าน
 

ด้าน "ตันซันซู" น้ำอัดลมสไตล์เกาหลี ยอดขายกำลังเริ่มปรับตัวดีขึ้น  ล่าสุด เปิดตัวรสชาติใหม่ "ตันซันซู ยัมมี่เลิฟโซดา" รสสตรอว์เบอร์รี่แตงโม หอม หวาน ซ่าส์ แต่น้ำตาล 0% จากไอเดียเครื่องดื่มคลายร้อนสุดฮิตของประเทศเกาหลี "ซูบักฮวาแซ" พร้อมครีเอทฉลากมากถึง 6 แบบเอาใจวัยรุ่น Gen Z รับเทศกาลวาเลนไทน์ที่ผ่านมา สร้างแบรนด์ไดนามิค ด้วยความสนุกและสร้างสรรค์เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เตรียมผลักดันให้ขึ้นแท่นเป็นสินค้ากลุ่ม Star ในอนาค

ทั้งนี้ เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ไว้วางใจ ICHI มาโดยตลอด ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ไฟเขียวอนุมัติจ่ายเงินปันผลประจำปี 2566 ในอัตราหุ้นละ 1.00 บาทต่อหุ้น ซึ่งได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วสำหรับงวดวันที่ 1 มกราคม - 30 กันยายน 2566 ในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566

โดยเหลือเงินปันผลจ่ายสำหรับงวดวันที่ 1 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2566 ในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท โดยจ่ายจากกำไรสุทธิและกำไรสะสม (ซึ่งเป็นกำไรสะสมของกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล (BOI) โดยผู้ได้รับเงินปันผลไม่สามารถขอเครดิตภาษีคืนได้) ให้แก่ผู้ถือหุ้นและได้กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการรับเงินปันผลและมีสิทธิเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นฯ (Record Date) ในวันที่ 6 มีนาคม 2567 โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 10 พฤษภาคม 2567