นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี ( 3 มกราคม 2566) รับทราบการประเมินผลโครงการภายใต้พรก.กู้เงิน วงเงิน 1 ล้านล้านบาท ครั้งที่ 2 ใช้จ่ายเงินกู้ รอบ 6 เดือน (กรกฎาคม -ธันวาคม 65) โดยการประเมินผลจำนวน 100 โครงการ กรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติรวม 898,092.12 ล้านบาท มีผลการเบิกจ่ายรวม 877,766.71 ล้านบาท คิดเป็น 97.73% ของกรอบวงเงินที่อนุมัติ
โดยทั้ง 100 โครงการ มีผลการดำเนินงานอยู่ในระดับดีมาก สร้างมูลค่าหมุนเวียนต่อเศรษฐกิจ 2,916,074.47 ล้านบาท มีรายได้กลับคืนภาครัฐ 562,869.84 ล้านบาท เกิดความคุ้มค่า 3.55 เท่า โดยมีผลการประเมินระดับแผนงาน ดังนี้
แผนงานที่ 1 แผนงานทางการแพทย์และสาธารณสุข จำนวน 26 โครงการ กรอบวงเงินรวม 55,086.52 ล้านบาท เบิกจ่ายรวม 51,046.76 ล้านบาท คิดเป็น 92.66% ของกรอบวงเงิน มีผลการประเมินอยู่ในระดับดี เช่น โครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 สำหรับประชาชนเพิ่มเติม 35 ล้านโดส ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ 63,559.74 ล้านบาท มีรายได้กลับคืนภาครัฐจากการจัดเก็บภาษี จำนวน 12,267.03 ล้านบาท เกิดความคุ้มค่าต่อระบบเศรษฐกิจ 4.65 เท่า
แผนงานที่ 2 แผนงานเพื่อช่วยเหลือ เยียวยา และชดเชยให้กับ ภาคประชาชน เกษตรกร และผู้ประกอบการ ซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จำนวน 17 โครงการ กรอบวงเงินรวม 669,688.03 ล้านบาท มีผลเบิกจ่ายรวม 667,393.81 ล้านบาท คิดเป็น 99.65% ของกรอบวงเงิน โดยมีผลการประเมินอยู่ในระดับดี เช่น โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ 2,156,189.28 ล้านบาท มีรายได้กลับคืนภาครัฐจากการจัดเก็บภาษี จำนวน 416,212.00 ล้านบาท
เกิดความคุ้มค่าต่อระบบเศรษฐกิจ 3.23 เท่า สำหรับผลกระทบทางสังคมที่สำคัญ คือ เพิ่มความสามารถในการรักษาสภาพคล่อง ชะลอการเกิดหนี้เสียของภาคธุรกิจ รักษาการจ้างงาน อย่างไรก็ตาม มีข้อเสนอแนะ เช่น ควรเพิ่มบทลงโทษกรณีที่ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของโครงการ และการมีระบบ ฐานข้อมูลแบบรวมศูนย์และการปรับปรุงฐานข้อมูลให้ข้อมูลเป็นปัจจุบัน
แผนงานที่ 3 แผนงานเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับ ผลกระทบจากโควิด-19 โดยมีผลการประเมินอยู่ในระดับดี เช่น โครงการพัฒนาพื้นที่ “โคก หนอง นา โมเดล” และ โครงการคนละครึ่ง ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจ 696,325.45 ล้านบาท มีรายได้ที่คาดว่ารัฐจะได้รับกลับคืนสูงสุดจากการจัดเก็บภาษี จำนวน 134, 390.81 ล้านบาท เกิดความคุ้มค่าต่อระบบเศรษฐกิจ 3.55 เท่า
สำหรับผลกระทบทางสังคมที่สำคัญ คือ ลดการว่างงาน การเลิกจ้างงาน สร้างงาน สร้างอาชีพ โดยมีข้อเสนอแนะ เช่น ควรพัฒนาระบบเทคโนโลยีให้สามารถรองรับการทำธุรกรรมจำนวนมาก และให้ความสำคัญกับความมั่นคงปลอดภัยของระบบเทคโนโลยี และ การปกป้องข้อมูลของประชาชน เป็นต้น