svasdssvasds
เนชั่นทีวี

Business

จ่อเลื่อนแจก 'เงินดิจิทัล' ไม่ทัน 1 ก.พ. 67 ไร้ข้อสรุปแหล่งเงิน

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ระบุ โครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท อาจไม่สามารถดำเนินการได้ทันตามกำหนด 1 ก.พ.นี้ สาเหตุ คือ การพัฒนาระบบ เพื่อรองรับการแจกเงินอาจล่าช้า เนื่องจากต้องทำให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด

สำหรับเรื่องของแหล่งเงิน และเงื่อนไขการแจกเงินนั้น ฝ่ายเลขาอนุกรรมการที่จะเป็นฝ่ายสรุปเรื่องดังกล่าวมาเสนอต่อที่ประชุมเมื่อวานนี้ นั้น ได้รับแจ้งว่า ยังไม่สามารถสรุปรายละเอียดเรื่องดังกล่าวได้ ดังนั้น ทางคณะอนุกรรมการจึงเลื่อนการประชุมออกไปเป็นวันอังคารที่ 24 ต.ค.นี้ เมื่อได้ข้อสรุปจะรีบเสนอคณะกรรมการชุดใหญ่ ถ้าติดขัดอะไรจะเสนอเป็นทางเลือกให้แก่คณะกรรมการพิจารณา

 

ทั้งนี้ เกี่ยวกับการพิจารณาในประเด็นเรื่องการกำหนดเงื่อนไขว่า จะแจกเงินแก่กลุ่มใด ที่มีการมองในเรื่องการแจกเงินที่ควรเฉพาะเจาะจงไปยังกลุ่มที่เปราะบาง และควรทยอยแจกเป็นระยะเวลา 10 เดือน เป็นต้น แต่รัฐบาลเห็นว่า ถ้าเราดำเนินตามเงื่อนไขดังกล่าว จะเป็นนโยบายในลักษณะนโยบายสังเคราะห์ คล้ายกับบัตรคนจน ซึ่งจะแตกต่างจากนโยบายที่รัฐบาลเสนอ โดยหลักการของการเดินนโยบายนี้ คือ การกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่นโยบายสงเคราะห์

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากรัฐบาลนี้ เป็นรัฐบาลผสม ฉะนั้นในรายละเอียดเรื่องของนโยบายอาจต้องปรับให้เหมาะสม ส่วนข้อเสนอเรื่องการยกเว้นการแจกเงินคนรวยนั้น ขณะนี้ ยังไม่มีข้อสรุปว่า คนมีรายได้ระดับใด คือ คนรวย บางคนบอกว่า มีเงินเดือน 2 หมื่นบาทก็รวยแล้ว แต่สำหรับรัฐบาลมองว่า คนชั้นกลางก็ลำบากมานาน ที่ผ่านมา ไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีนัก ฉะนั้น นโยบายนี้ ก็ควรให้โอกาสแก่คนกลุ่มนี้ด้วย

ซึ่งนโยบายนี้หลักๆ คือ ต้องการให้เข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะจีดีพีของเรานั้นโตต่ำมาตลอด ถ้ารัฐบาลไม่ทำอะไร จีดีพีก็จะต่ำกว่านั้น แต่หากเราเดินนโยบายนี้ เชื่อว่า จีดีพีจะขยายตัวได้ใกล้ 5% โดยกรอบวงเงินที่จะใช้ยังยืนอยู่ที่ 5.48 แสนล้านบาท และไม่กังวลว่าโครงการนี้ จะเหมือนกับโครงการจำนำข้าวในอดีต โดยเชื่อมั่นว่าด้วยระบบที่รัฐบาลกำลังพัฒนานี้ และระบบการติดตามการตรวจสอบการทุจริต ทำให้มั่นใจว่าจะไม่มีเหตุการณ์ทุจริตได้ แต่ถ้าหากมีการทุจริตรัฐบาลจะมีการดำเนินคดีอย่างแน่นอน

 

ทั้งนี้ รัฐบาลจะกำหนดให้มีการยืนยันตัวตนเพื่อรับสิทธิ์ในโครงการนี้ ซึ่งเป็นไปตามข้อกฎหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยคนที่เคยยืนยันตัวตนในโครงการของรัฐบาลที่แล้ว 40 ล้านคน ก็ไม่ต้องยืนยัน แต่ต้องมากดรับสิทธิ์ ส่วนคนที่ไม่เคยยืนยันตัวตน ต้องมายืนยันตัวตน ส่วนคนที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบสมาร์ตโฟนได้ ทางรัฐบาลจะมีแนวทางพิเศษเพื่อผ่อนปรนให้

 

ในส่วนร้านค้าที่จะขึ้นเงินสดในขั้นตอนสุดท้ายนั้น ต้องเป็นร้านค้าที่อยู่ในระบบภาษี ขณะเดียวกัน รัฐบาลจะสร้างแรงจูงใจให้ร้านค้าถือเงินไว้ก่อน เพื่อให้เงินหมุนในระบบนานขึ้น แต่หากต้องการขึ้นเงินสดก็สามารถทำได้ทันที

 

สำหรับผู้พัฒนาระบบการแจกเงินดิจิทัลนี้ รัฐบาลกำหนดให้สมาคมธนาคารเป็นผู้ดำเนินการ ดังนั้น จึงไม่ใช่ข้อห่วงใยที่ว่า จะว่าจ้างบริษัทเอกชนรายใดรายหนึ่งมาดำเนินการ และเม็ดเงินที่จะนำมาพัฒนานั้น ก็ไม่ได้อยู่ในหลักหมื่นล้านบาทแน่นอน โดยจะไม่อยู่ในหลักที่น่าตกใจ ส่วนเงื่อนไขกำหนดระยะทางการใช้จ่ายนั้น ขณะนี้ยกเลิกเงื่อนไขการใช้จ่ายภายใน 4 กิโลเมตรจากที่อยู่แล้ว โดยการพิจารณาจะอยู่ในเขตตำบล อำเภอ และ จังหวัด เท่านั้น