นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายสัตวแพทย์ชุติพนธ์ ศิริมงคลรัตน์ ผู้อำนวยการกองสารวัตรและกักกันและนายสัตวแพทย์ยุทธนา โสภี หัวหน้าด่านกักกันสัตว์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิว่า เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ร่วมกับเจ้าหน้าที่ศุลกากรตรวจพบความผิดปกติของกระเป๋า 6 ใบที่มากับเที่ยวบินซึ่งมีต้นทางจากประเทศอินเดีย
โดยลักษณะของกระเป๋ามีขนาดใหญ่และน้ำหนักมาก จึงขอเปิดตรวจค้นและพบการลักลอบนำซากสัตว์ประกอบด้วย หนังโค 60 กิโลกรัม และเขี้ยวหมูจำนวน 140 กิโลกรัม น้ำหนักรวม 200 กิโลกรัม ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำ เบื้องต้นสารภาพว่า ลักลอบนำเข้าเพื่อมาทำเป็นเครื่องประดับและเครื่องรางของขลัง ซึ่งจะทำให้ผู้ซื้อเข้าใจว่าทำมาจากเขี้ยวเสือหรือหนังเสือ
จากนั้นจึงนำตัวเจ้าของกระเป๋าส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 มาตรา 31 มีโทษตามมาตรา 68 ผู้ใดนำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านราชอาณาจักรซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 31 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนของกลางทั้งหมดได้ยึดไว้ทำลายเพื่อป้องกันโรคระบาดที่อาจปนเปื้อนมากับซากสัตว์ดังกล่าว
อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมปศุสัตว์ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังและสกัดกั้น การลักลอบนำเข้าสัตว์มีชีวิต หรือ ซากสัตว์ อย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันการแพร่ของโรคระบาดสัตว์ ซึ่งซากสัตว์ดังกล่าวอาจเป็นพาหะของโรคปาก และเท้าเปื่อย โรคลัมปีสกิน และโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร เป็นต้น รวมถึงเพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค และ ปกป้องเกษตรกรผู้เลี้ยงปศุสัตว์ภายในประเทศ
หากประชาชนต้องการแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดกฎหมายกรมปศุสัตว์ หรือข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อได้ที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ หรือสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดใกล้เคียง หรือสายด่วนกรมปศุสัตว์ โทร 063-225-6888 หรือสารวัตรปศุสัตว์ไซเบอร์ โทร 02-501-3473 หรือแจ้งผ่าน Application : DLD 4.0 ได้ตลอดเวลา