svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

กรมการค้าภายใน ดันราคา”กระเทียมปาย” ตามนโยบาย "ตลาดนำการผลิต"

12 กุมภาพันธ์ 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เกษตรกรยิ้มได้ กรมการค้าภายใน ดันราคา”กระเทียมปาย” สุดยอดกระเทียมไทย ตามนโยบาย "ตลาดนำการผลิต" ผ่าน "อมก๋อย โมเดล" กระจายของดีแม่ฮ่องสอน

12 กมภาพันธ์ 2566 ถือเป็นภารกิจสำคัญของรัฐบาล ในการผลักดันราคาสินค้าเกษตร และส่งเสริมรายได้ของเกษตรกร โดยเฉพาะสินค้าเกษตรภายในประเทศ จากการผลักดันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าง กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้า หนึ่งในตัวอย่างสินค้าเกษตรที่ได้รับการผลักดันคือ พืช 3 หัวในราคานำตลาด ประกอบด้วย "หอมหัวใหญ่ หอมแดง และกระเทียม" 

สินค้าเกษตรเหล่านี้ ประสบความสำเร็จเกินคาด จาากยุทธการซื้อพืช 3 หัว ในราคานำตลาดของกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้า ภายในร่วมกับผู้ประกอบการ 16 ราย เข้ารับซื้อผลผลิตถึงแหล่งปลูก ตามนโยบาย "ตลาดนำการผลิต" ของรัฐบาล ผ่านแนวคิด "อมก๋อยโมเดล" ที่ริเริ่มโดย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ หลังคิกออฟ "หอมหัวใหญ่" ที่เชียงใหม่เมื่อ 27 ม.ค. 66  ที่ผ่านมา ล่าสุดถึงคิว "กระเทียม" แม่ฮ่องสอน ในสัปดาห์นี้ ที่ผู้ประกอบการเข้าไปรับซื้อถึงแหล่งปลูก

จากการคาดการณ์ ของสำนักงานแศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ระบุว่า ผลผลิตกระเทียม ในฤดูการผลิตปีนี้ (2566) อยู่ที่ 64,891 ตัน พื้นที่เพาะปลูกทั้งประเทศอยู่ที่ 61,563 ไร่ แหล่งปลูกส่วนใหญ่อยู่ในภาคเหนือ มี จ.เชียงใหม่ ให้ผลผลิตมากที่สุด 25,556 ตัน , รองลงมาแม่ฮ่องสอน  20,837 ตัน , ลำพูน 1,925 ตัน และพื้นที่อื่น ๆ อีก 16,573 ตัน    

โดย "กระเทียมแม่ฮ่องสอน" ได้ชื่อว่า เป็นสุดยอดกระเทียมไทย มีลักษณะสีม่วง กลิ่นฉุน เปลือกบาง ไม่ฝ่อง่าย เก็บไว้ได้นาน ที่สำคัญยังพบว่า มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยยับยั้งและป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็ง ที่เรียกว่า "อัลลิซิน" สูงกว่าที่อื่น มีแหล่งปลูกหลักอยู่ใน 3 อำเภอ ได้แก่ เมือง ปาย และขุนยวม  
นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน
 

นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เผยความคืบหน้า การขับเคลื่อนมาตรการจัดการพืช  3 หัวปี 2566 ตามนโยบาย "ตลาดนำการผลิต" ผ่านแนวคิด "อมก๋อย โมเดล" หลังคิกออฟเปิดโครงการ ไปเมื่อวันที่ 27 ม.ค. ที่ผ่านมา ณ สหกรณ์ผู้ปลูกหอมหัวใหญ่บ้านกาดพัฒนา จำกัด อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ โดยมี นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายในเป็นประธาน 

จากนั้นได้มีการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง ด้วยการนำผู้ประกอบการจำนวน 16 ราย ประกอบด้วย ผู้รวบรวม 8 ราย ผู้ประกอบการแปรรูป 4 ราย และตลาดกลาง 4 ราย  เข้าไปดำเนินการรับซื้อผลผลิต ถึงแหล่งปลูกในราคานำตลาด ในช่วงต้นฤดูการผลิต เพื่อกระจายสู่ห้างค้าส่ง-ค้าปลีก และสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง 4 แห่ง รวม 1,318 สาขา ตลอดจนร้านธงฟ้าอีก 1 หมื่นร้านค้า ที่อยู่ในการกำกับดูแลของกรมการค้าภายใน

ปัญหากระเทียมในอดีต เกษตรกรปลูกแล้วไม่รู้ไปขายที่ไหน จะเก็บก็กลัวขายไม่ได้ขายสดก็ถูกกดราคา  กรมก็ได้ร่วมกับผู้ประกอบการเข้าไปรับซื้อล่วงหน้าในราคานำตลาด เมื่อสดหมดเขาก็จะเก็บแห้งไว้ขายต่อ 

กรมการค้าภายใน ดันราคา”กระเทียมปาย” ตามนโยบาย \"ตลาดนำการผลิต\"
 

รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เผยต่อว่า สำหรับพืชหัวอย่างกระเทียมนั้นปี 2566 นี้ กรมมีเป้าหมายซื้อล่วงหน้า พร้อมทำสัญญาในราคานำตลาดจำนวน 64,891 ตัน จากแหล่งปลูกสำคัญใน 3 จังหวัด คือ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน และลำพูน  โดยช่วงสัปดาห์นี้จะมุ่งเป้าไปที่ จ.แม่ฮ่องสอน เนื่องจากผลผลิตกระเทียม เริ่มออกสู่ตลาดก่อนพื้นที่อื่น 

“แหล่งผลิตสำคัญกลุ่มใหญ่ อยู่ที่แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เฉพาะแม่ฮ่องสอน กระเทียม รวมแล้ว 3,700 ตัน เชียงใหม่ 3,000 ตัน ลำพูน 1,300 ตัน เราดูดซับออกมาสองพันตัน หรือยี่สิบเปอร์เซ็นต์ในราคานำตลาด ทำให้กระแสความต้องการมากขึ้น ตลาดคึกคักขึ้น อย่างที่ปายตอนนี้เริ่มแล้ว ผู้ประกอบการที่เราเชื่อมโยงมา เข้ารับซื้อในราคายี่สิบบาท เมื่อก่อนไม่มีใครมาซื้อตั้งแต่ต้นฤดู รอก่อน ๆ ให้มันออกชุกแล้วค่อยกดราคา เกษตรกรจะเก็บก็เก็บไปไม่รู้อนาคต ตอนนี้เก็บปุ๊บมีคนมาแย่งซื้อปั๊บ” นายกรนิจ กล่าวถึงมาตรการเชิงรุกจัดการพืชกระเทียม แม่ฮ่องสอน  

นายกรนิจ กล่าวว่า ขณะที่ ผู้ประกอบการรายใหญ่  1 ใน 16 ราย ที่ร่วมโครงการกับกรมการค้าภายใน เข้าไปรับซื้อกระเทียมถึงแหล่งปลูก เผยสถานการณ์กระเทียมในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน ในขณะนี้ โดยเฉพาะ อ.ปาย เริ่มให้ผลผลิตก่อนอำเภออื่น โดยกล่าวยอมรับว่า

ตอนนี้พวกคนกลางตื่นตัวกันมาก โทรหากันวุ่นว่าขายที่ไหน ขายให้ใคร   เขาจะเก็บมาขายบ้าง  ส่วนเราจะไม่รับซื้อจากคนกลาง แต่จะซื้อจากเกษตรกรตัวจริงเท่านั้น ตอนนี้ข่าวกระฉ่อนไปทั่วทั้ง อ.ปาย แล้ว 

ผู้ประกอบการรายเดิมยอมรับว่า คุณภาพกระเทียมแม่ฮ่องสอนปีนี้ดีมาก ขณะนี้ทุกพื้นที่เริ่มให้ผลผลิตบ้างแล้ว โดยเริ่มที่ อ.ปาย จากนั้นก็จะทยอยรับซื้อไปเรื่อย ๆ ทั้งในพื้นที่ อ.ปาย และอำเภออื่น ๆ  ซึ่งราคาปีนี้ดีกว่าปีที่แล้ว เฉลี่ยอยู่ที่ 20 - 25 บาทต่อกิโลกรัม อย่างไรก็ตามกระเทียมแม่ฮ่งอสอนขณะนี้ ยังอยู่ในช่วงต้นฤดู ซึ่งจะออกชุกราวปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม 
กรมการค้าภายใน ดันราคา”กระเทียมปาย” ตามนโยบาย \"ตลาดนำการผลิต\"

ด้าน นันทนา พรมพันธ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เมืองแปง อ.ปาย ในฐานะประธานแปลงใหญ่กระเทียม อ.ปาย กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่รัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน ได้ให้ความสำคัญกับเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียม  ส่งผลทำให้ราคากระเทียมปีนี้ ค่อนข้างดีกว่าทุกปี ที่ผ่านมา  

ปีที่แล้วเกษตรกรพอขายได้  แต่ปีนี้พาณิชย์ช่วยพยุงราคาไม่ให้ต่ำกว่าราคาตลาด ตอนนี้กระเทียมสดเขารับซื้ออยู่ที่ยี่สิบกว่าบาท แต่เป็นช่วงต้นฤดูผลผลิต ยังออกมาไม่เยอะ ต้องรอดูช่วงมีนาคม กระเทียมจะออกมาเยอะว่า ราคาจะอยู่ที่เท่าไหร่”

ประธานแปลงใหญ่กระเทียมปาย กล่าวถึงจุดเด่นกระเทียมแม่ฮ่องสอนว่า ถือเป็นสุดยอดของกระเทียมไทย ต่างจากที่อื่น มีสีม่วง กลิ่นฉุน เปลือกบาง ไม่ฝ่อง่าย เก็บไว้ได้นาน และจากการวิจัยพบว่า มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยยับยั้งและป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็ง 

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ปัญหาพืชกระเทียมปายในปัจจุบัน นอกจากพื้นที่ปลูกลดลงทุกปีประมาณ 20% เป็นผลมาจากอุทกภัย และต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ทั้งค่าปุ๋ย ค่ายาตลอดจนค่าพันธุ์แล้ว ยังมีบริษัทตัวแทนผู้ซื้อ หรือพ่อค้าคนกลางมาลงทุน ให้กับเกษตรกร พร้อมทำสัญญาซื้อขายผลผลิตล่วงหน้าด้วย 

“พาณิชย์พยุงราคาถือว่าดี แต่ก็มาปลายฤดู บางทีทำอะไรไม่ได้ เพราะมีบริษัทตัวแทนผู้ซื้อ พ่อค้าคนกลางลงทุนให้เมื่อถึงเวลาขาย เขาก็ต้องขายให้กับพ่อค้าอยู่ดี  เพราะเกษตรกรไม่มีเงินลงทุนเอง พ่อค้าลงทุนให้ก่อนแล้วค่อยหักลบจบหนี้ตอนขายผลผลิต นี่คือปัญหาหลัก  วิธีแก้รัฐต้องหาแหล่งทุนหรือพาณิชย์ ต้องหาบริษัทเข้ามาช่วยตั้งแต่ต้น พูดง่าย ๆ บริษัทเข้ามาตอนถอน ถ้าบริษัทมาดูแต่ตั้งแต่ตอนแรก ชาวบ้านจะได้รับผลประโยชน์สูงสุด แต่ก็ยังดีที่มาตอนถอน”

ประธานแปลงใหญ่กระเทียม อ.ปาย สะท้อนปัญหาให้ฟัง พร้อมกล่าวเชิญชวนประชาชนคนไทย อุดหนุนกระเทียมไทย โดยร่วมใจกันซื้อครอบครัวละ 1-2 กิโลกรัมเพื่อช่วยเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียม เนื่องจากพืชกระเทียม สามารถเก็บไว้ได้นานต่างจากพืชหัวอื่นหรือไม้ผล
นันทนา พรมพันธ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เมืองแปง
 

logoline