นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่2566 ระหว่างวันที่ 24 ธ.ค. 2565 ถึงวันที่ 8 ม.ค. 2566 เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และ ชาวไทยที่เดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาว และ กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย กรมฯ จึงได้คัดเลือก “ตลาดต้องชม” ที่มีศักยภาพทั้งหมด 180 แห่ง ทั่วประเทศเพื่อจัดกิจกรรมปีใหม่
โดย ภาคเหนือ มีตลาดจัดกิจกรรมทั้งหมด 41 แห่ง อาทิ
- จ.แพร่ แวะ ชิม ช้อป ที่ "กาดเมกฮิม" ซึ่งตั้งอยู่ในชมุชนริมน้ำ บริเวณรอบคูเมือง มีกำแพงเก่าแก่มากกว่า 1,000 ปี และ เป็นที่ประดิษฐ์สถานพระพุทธรูปน้ำออกเศียร ที่มีเพียง 3 รูปในไทย
- จ.น่าน "กาดข่วงเมืองน่าน" บริเวณถนนคนเดินวัดภูมินทร์ เป็นตลาดที่มีกลิ่นอายล้านนา มีสินค้าเด่น เช่น ผ้าทอลายโบราณและเครื่องเงิน
- จ. เชียงใหม่ "ตลาดจริงใจ" ตลาดที่เน้นอาหารปลอดภัยในตัวเมือง เน้นพืชผักอินทรีย์ผลิตจากยอดดอยสู่ผู้บริโภคคนเมือง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีตลาดจัดกิจกรรมทั้งหมด 44 แห่ง อาทิ
- จ.ขอนแก่น ต้องไม่พลาด "ตลาดริมทางไก่ย่างเขาสวนกลาง" เมนูดังแห่งเมืองแก่นนคร
- จ.อุดรธานี "ตลาดผ้าบ้านนาข่า" แหล่งรวมผ้าทอมือ หลากหลาย เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร
- จ.เลย "ตลาดถนนคนเดินวีถีคนเชียงคาน" กับบรรยากาศเดินเที่ยว ชมวิวแม่น้ำโขง
- จ.บุรีรัมย์ "ตลาดคนเดินเซราะกราว" แหล่งผลิต และ จำหน่ายสินค้าพื้นบ้านเด่นของจังหวัด
- จ.สุรินทร์ สำหรับคนรักผ้าไหม ต้องมาเยือน ”ตลาดผ้าไหมบ้านท่าสว่าง” หมู่บ้านเก่าแก่ และ ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหมู่บ้านโอท็อป(OTOP)เพื่อการท่องเที่ยว เชิงหัตถกรรมผ้าไหม แห่งเดียวของประเทศ
- จ. อุบลราชธานี "ตลาดถนนคนเดินเขมราษฎร์ธานี" เดินลัดเลาะริมโขง ชมวิถีชีวิต แล้วไปกราบสักการะพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ พระพุทธรูปปางมารวิชัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมือง
ภาคกลาง มีตลาดจัดกิจกรรมทั้งหมด 61 แห่ง อาทิ
- จ.นนทบุรี ที่ "ตลาดน้ำไทรน้อย"
- จ.นครปฐม "ตลาดน้ำลำพญา" จุดเช็กอินยอดฮิตของนักท่องเที่ยว
- จ.สมุทรปราการ ปั่นจักรยานเที่ยว "ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง"
- จ.สมุทรสาคร "ตลาดริมคลองพ่อพันท้ายนรสิงห์"
- จ.พระนครศรีอยุธยา ไหว้สักการะรูปปั้นหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ เพื่อเป็นสิริมงคล ที่ "ตลาดหลวงปู่ทวด"
- จ.อ่างทอง "ตลาดศาลเจ้าโรงทอง"
- จ.สิงห์บุรี "ตลาดชุมชนบ้านพิกุลทอง” มีของดีเป็นผลิตภัณฑ์ปลาช่อนแม่ลา และ สินค้าโอท็อปขึ้นชื่อ
- จ.นครสวรรค์ "ตลาดท่าเรือคลองคาง" แวะพักรับประทานอาหารและขนมอร่อยหลายอย่าง เช่น ขนมครกไส้แตก หมึกย่างท่าเรือ ไอศกรีมโอ่ง ฯลฯ
- จ.พิจิตร "ตลาดเก่าวังกรด" ตลาดสดริมแม่น้ำน่าน เป็นชุมชนสำคัญทางประวัติศาสตร์ ภายในมีนิทรรศการและ การจัดแสดงของใช้โบราณ เพื่อสะท้อนความเป็นมาของตลาด และ วิถีชุมชนแห่งนี้
- จ.พิษณุโลก "ตลาด 120 ปีวิถีชาววัง"
ภาคใต้ มีตลาดจัดกิจกรรมทั้งหมด 28 แห่ง อาทิ
- จ.ชุมพร "ตลาดพ่อตาหินช้าง” แหล่งแปรูปผลิตภัณฑ์กล้วยเล็บมือนางขึ้น
- จ.พังงา จะต้องแวะถนนวัฒนธรรม "ตลาดเก่าตะกั่วป่า" แหล่งผลิตแร่ดีบุกยุครุ่งเรืองในอดีต ยังคงหลงเหลือบ้านพักอาศัยสไตล์ชิโนโปรตุเกสให้ได้เห็น
- จ.ภูเก็ต ที่ "ถนนคนเดินหลาดใหญ่" ตลาดนัดสุดเก๋ย่านตลาดเก่าภูเก็ต ชมพิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว โรงเรียนสอนภาษาจีนแห่งแรกของจ.ภูเก็ต
- จ.พัทลุง ห้ามพลาด "ตลาดใต้โหนด" ตลาดที่มีอัตลักษณ์ด้านชุมชนสีเขียว สินค้าสีเขียว ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างจะต้องผลิตจากธรรมชาติ ยิ่งไปกว่านั้นจะไม่มีถุงพลาสติกไว้บริการ ลูกค้าจะต้องนำถุงผ้าหรือภาชนะใส่สินค้าไปเอง
- จ.สงขลา "ตลาดน้ำคลองแห" จำลองวิถีดั้งเดิมการทำมาค้าขายทางน้ำ ของชาวบ้านคลองแหในอดีต มีขนมพื้นเมืองและอาหารปักษ์ใต้หลากหลายไว้บริการ เป็นตลาดน้ำเชิงวัฒนธรรมของชาวเมืองสงขลา
- จ.ยะลา "ตลาดนัดชุมชนบ้านคลองทรายใน" ริมถนนสาย418 ยะลา-ปัตตานี ทางผ่านเสมือนจุดพักรถที่มีหลักกิโลเมตรใหญ่ที่สุดของจังหวัดตั้งเด่นเป็นสง่า มีผลิตภัณฑ์เด่น คือ "ไก่กอและ"
- จ.นราธิวาส "ตลาดยะกัง ขนม100ปี" กับตำนานความอร่อยของขนมโบราณ ชื่อแปลก หาทานยาก อาทิ ขนมบาตาบูโระ ขนมปูตูฮาลือบอ ขนมจูโจ ขนมเจ๊ะแมะ นาซิดาแฆ นาซิกายอ เป็นต้น
และสุดท้ายกับตลาดในพื้นที่กรุงเทพฯ จำนวน 6 แห่ง ได้แก่ ตลาดพลู ,ตลาดคลองบางหลวง,ตลาดนางเลิ้ง, ตลาดน้ำสองคลองวัดตลิ่งชัน, ตลาดคลองลัดมะยม และ ตลาดน้ำวัดพระยาสุเรนท์
ทั้งนี้ “ตลาดต้องชม” เป็นนโยบายส่งเสริมการตลาดในประเทศ ที่สำคัญ ของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ในการขับเคลื่อน เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ระดับฐานราก จากจุดเริ่มต้นโครงการเมื่อปี 2559 จนถึงวันนี้มีการขยายจำนวนตลาด ทั่วประเทศแล้วจำนวน 238 แห่ง ที่เป็นจุดหมายสำคัญรองรับนักท่องเที่ยว และประชาชนทั่วไป ให้ไปสัมผัส