svasdssvasds
เนชั่นทีวี

คอลัมนิสต์

กลับสู่สนามรบ “ฮิงบุนเฮียง-สรัยดึก” ขุนศึกคู่ใจ “ฮุนเซน” ปักหลักพระวิหาร

ก่อนเสียงปืนแตกรอบใหม่ “พล.อ.ฮิง บุนเฮียง” และ “พล.อ.สรัย ดึก”พบกับทายาทฮุน เซน ที่แนวหน้า จ.พระวิหาร

7 ธันวาคม 2568 กลับมาแล้ว พล.อ.ฮิง บุนเฮียง-พล.อ.สรัย ดึก ขุนศึกเขมรโชว์ตัวต้อนรับ ฮุน มานี มาตรวจแนวรบ จ.พระวิหาร

 

ก่อนเสียงปืนแตกรอบใหม่ 2 นายพลคนดัง ที่มีข่าวลือเสียชีวิต ได้ปรากฏกายเคียงข้างทายาท สมเด็จฮุน เซน เป็นครั้งแรก

 

ในที่สุด การปะทะรอบใหม่ที่ชายแดนไทย-กัมพูชาก็เกิดขึ้น เมื่อทหารกัมพูชา เปิดฉากยิงทหารไทย บริเวณภูผาเหล็ก-พลาญหินแปดก้อน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 7 ธ.ค.2568

 

ก่อนหน้านี้ วันที่ 6 ธ.ค.2568 ฮุน มานี รองนายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรีกระทรวงกิจการสาธารณะ และประธานสหภาพสหพันธ์เยาวชนกัมพูชา(UYFC) เดินทางมาตรวจเยี่ยมหน่วยทหารกัมพูชา ประจำการที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดพระวิหาร

 

พล.อ.อิท สารัต รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด เสนาธิการร่วมแห่งกองทัพกัมพูชา พร้อมด้วยนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระวิหาร และสมาชิก UYFC ได้ให้การต้อนรับทายาทของ สมเด็จฮุน เซน อย่างคึกคัก

 

ที่น่าสนใจ “พล.อ.ฮิง บุนเฮียง” รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด และ ผบ.หน่วยทหารองครักษ์ (BHQ) และ “พล.อ.สรัย ดึก” รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้ปรากฏตัวพร้อมกันเป็นครั้งแรก

 

ดังที่ทราบกัน หลังเหตุการณ์สงครามไทย-กัมพูชา 5 วัน มีข่าวลือว่า พล.อ.สรัย ดึก เสียชีวิตในสนามรบ ตามมาด้วย พล.อ.ฮิง บุนเฮียง ก็หายตัวไปราวขอมดำดิน

 

มีข้อน่าสังเกต ฮุน มานี บุกมาเยี่ยมทหารแนวหน้าอย่างเงียบๆ แต่นายทหารกัมพูชา ที่ประจำการแนวหน้าได้มาต้อนรับแบบเต็มคณะ 
 

ฮุน มานี ไปพบขุนศึกเขมร ทั้ง พล.อ.ฮิง บุนเฮียง และ พล.สรัย ดึก

จอมโหดคู่บุญฮุนเซน
 

นับแต่มีการหยุดยิง เมื่อวันที่ 28 ก.ค.2568 พล.อ.ฮิง บุนเฮียง รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดกัมพูชา และ ผบ.หน่วยทหารองครักษ์ (BHQ) ไม่ปรากฏตัวผ่านสื่อ จนมีข่าวลือว่า เสียชีวิต

 

ช่วงปลายเดือน ส.ค.2568 พล.อ.ฮิง บุนเฮียง โผล่ที่วัด 2 แห่งใน อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร โดยมีการนำสิ่งของอุปกรณ์และปัจจัยไปถวายแด่พระสงฆ์ที่จำพรรษา สยบข่าวลือว่า เขาเสียชีวิตแล้ว

 

สื่อฝ่ายค้านกัมพูชาระบุว่า พล.อ.ฮิง บุนเฮียง กบดานอยู่ในแนวหน้า ไม่ได้หายหน้าไปไหน โดยสมเด็จฮุน เซน มอบให้ทำงานลับใน จ.พระวิหาร แทน พล.อ.สรัย ดึก ที่ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบ

 

กล่าวสำหรับ พล.อ.สรัย ดึก แม่ทัพพระวิหาร เพิ่งปรากฏตัวเมื่อสัปดาห์สุดท้ายของเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา โดยให้การต้อนรับ เมน ซัมอาน(Men Sam An) องคมนตรี และประธานสมาคมสตรีกัมพูชาเพื่อสันติภาพและการพัฒนา ที่เดินทางมายังจังหวัดพระวิหาร 
 

เป็นครั้งแรกที่ พล.อ.ฮิง บุนเฮียง ปรากฏตัวผ่านสื่อในชุดนักรบ นับแต่สงคราม 5 วันยุติลงเมื่อปลายเดือน มิ.ย.68 7

 

แม่ทัพพระวิหารตัวจริง
 

ถ้ายังจำกันได้ หลังสงครามไทย-กัมพูชายุติลง สื่อฝั่งไทยประโคมข่าว พล.อ.สรัย ดึก รอง ผบ.ทบ. และ ผบ.กองพลสนับสนุนที่ 3 เสียชีวิตที่สมรภูมิช่องบก อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร

 

ต่อมา กระทรวงกลาโหมกัมพูชา ได้ออกมาปฏิเสธการรายงานของหนังสือพิมพ์ไทยฉบับหนึ่ง ที่ระบุว่า พล.อ.สรัย ดึก ได้เสียชีวิตแล้ว

 

พล.อ.สรัย ดึก เป็นที่รู้จักของสื่อไทยมากกว่านายพลคนอื่น เพราะเขาเป็น ผบ.กองพลสนับสนุนที่ 3 สมัยการสู้รบที่เขาพระวิหาร และภูมะเขือ ช่วงปี 2552 และปี 2554

 

“สรัยดึก” เป็นอดีตนายทหารเขมรแดง สมัยสงครามเขมร 4 ฝ่าย ซึ่งที่มั่นใหญ่ของเขมรแดงเวลานั้น อยู่ที่เมืองอันลองเวง จ.อุดรมีชัย

 

สมเด็จฮุน เซน จึงใช้กำลังทหารของ พล.อ.สรัย ดึก ทำการสู้รบกับทหารไทย เพราะเป็น “อดีตทหารเขมรแดง” ที่รู้จักสมรภูมิเทือกเขาพนมดงรักเป็นอย่างดี

 

ตามการรายงานข่าววงในจากฝั่งเขมรยืนยันว่า “เจ้าพ่อพระวิหาร” พล.อ.สรัย ดึก ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบ และไปรักษาตัวที่ประเทศเวียดนาม

 

การกลับมาของ พล.อ.ฮิง บุนเฮียง และ พล.อ.สรัย ดึก เปรียบเสมือนการผสมผสานระหว่างรบจรยุทธ์แบบเขมรแดง และการรบพิเศษแบบ BHQ ที่ได้รับการฝึกจากกองทัพจีน