สะเทือนอุบล “เกรียง” แบรนด์นายใหญ่ไม่ปัง “เนวิน” สยายปีกยึดอีสานใต้

8 ตุลาคม 2568 อะไรก็เกิดขึ้นได้ เกรียง มุดถ้ำพูลแมนพบ เนวิน คนรู้จักกันมานาน ผู้ภักดีนายใหญ่ จะย้ายค่ายเหมือนชูวิทย์ กุ่ย จริงหรือ

 

การเมืองอุบลวันนี้ เพื่อไทยไม่เหมือนวันวาน หากแบรนด์ทักษิณยังแข็งแรง คงไม่มีภาพเสี่ยเบี้ยวนัดพบครูใหญ่บุรีรัมย์

 

หลายคนคงนึกไม่ถึงว่า “เสี่ยเบี้ยว” เกรียง กัลป์ตินันท์ คนสนิท ทักษิณ ชินวัตร จะมีการนัดคุยกับ เนวิน ชิดชอบ ที่โรงแรมพูลแมน ซึ่งเจ้าตัวปฏิเสธว่า ไม่มีเรื่องการเมือง ไม่มีเรื่องย้ายพรรค

 

สืบเนื่องจาก ชูวิทย์ กุ่ย พิทักษ์พรพัลลภ เพื่อนซี้เกรียง ลาเพื่อไทยไปอยู่พรรคกล้าธรรม จึงทำให้คอการเมืองวิเคราะห์ว่า เกรียงก็อาจจะย้ายไปอยู่ค่ายสีน้ำเงินบ้าง

 

จริงๆแล้ว เมื่อวันที่ 26 ก.ค.2568 อดีตนายกฯ ทักษิณ ได้เดินทางมาเยี่ยมชาวบ้านผู้หนีภัยสงครามชายแดน “เสี่ยเบี้ยว” ควงลูกชาย วรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ สส.อุบลฯ ลูกสะใภ้ พิศทยา ไชยสงคราม นายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี และหลานชาย มวลชน กัลป์ตินันท์ ประธานสภา อบจ.อุบลฯ ให้การต้อนรับนายใหญ่เต็มที่

 

ที่ผ่านมา เกรียงได้ชื่อว่าเป็น “เด็กนายใหญ่” และคนสนิทเจ๊แดง แต่เพิ่งได้เป็น รมช.มหาดไทย สมัยรัฐบาลเศรษฐา ซึ่งเป็นการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีครั้งแรกในชีวิต นับแต่เขาเล่นการเมืองมานานกว่า 30 ปี

 

ว่ากันว่า เกรียง รู้สึกผิดหวังที่ไม่ได้ไปต่อในตำแหน่ง รมช.มหาดไทย และในการปรับ ครม.แพทองธาร 2 เขาคาดหวังที่จะรีเทิร์นนั่งเก้าอี้รัฐมนตรี แต่ไม่ได้ตำแหน่งใดๆ  

ศิษย์เก่าวังน้ำเย็น
 

3-4 ทศวรรษที่แล้ว ไชยศิริ เรืองกาญจนเศรษฐ์ อดีตรัฐมนตรี อดีต สส.อุบลฯ ยังเป็นผู้มากบารมีในเขต อ.เมืองอุบลฯ

 

เวลานั้น “เสี่ยเบี้ยว” เกรียง กัลป์ตินันท์ ยังเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ในนาม “หจก.อุบลวรสิทธิ์ก่อสร้าง”

 

อิสสระ สมชัย และ วิฑูรย์ นามบุตร สส.อุบลฯ พรรคประชาธิปัตย์ สมัยโน้น ได้ชักชวนให้เสี่ยเบี้ยว ลงสมัคร สส.ในเสื้อสีฟ้า

 

เกรียง กัลป์ตินันท์ ลงสนามโค่น ไชยศิริ เรืองกาญจนเศรษฐ์ ได้เป็น สส.อุบลฯ สมัยแรก ปี 2538

 

ปี 2539 เสี่ยเกรียง ย้ายจากพรรค ปชป.ไปสังกัดพรรคความหวังใหม่ ได้เป็น สส.สมัยที่  2 และเป็นขุนศึกอีสานของค่ายวังน้ำเย็น เสนาะ เทียนทอง

 

เกรียงแสดงออกถึงความภักดีต่อตระกูล “ชินวัตร” อย่างออกนอกหน้า เขาเดินทางไปเยี่ยมทักษิณที่ต่างแดนบ่อยครั้ง

 

สำหรับการเมืองท้องถิ่น เสี่ยเบี้ยวยังมีนักการเมืองที่คอยช่วยเหลือน้องชาย กานต์ กัลป์ตินันท์ นายก อบจ.อุบลฯ อยู่ 2 คนคือ อิสสระ สมชัย พรรคภูมิใจไทยและ วิฑูรย์ นามบุตร พรรค ปชป. 

แบรนด์ทักษิณขายไม่ได้
 

ปัจจุบัน เสี่ยเบี้ยว มี สส.อุบลฯ ในซุ้มอยู่ 4 คน จาก สส.อุบลฯ ทั้งหมด 11 คน ซึ่งเป็นช่วงเวลาตกต่ำของพรรคทักษิณ นับแต่ปี 2548 เป็นต้นมา

 

ผลการเลือกตั้ง สส.อุบลฯ ปี 2566 สะท้อนว่า แบรนด์ทักษิณเริ่มไม่ขลัง และคนเสื้อแดงจำนวนมาก ย้ายไปสวมเสื้อสีส้ม พร้อมกับเลือก สส.เขตค่ายสีน้ำเงิน

 

โจทย์ใหญ่ของเสี่ยเบี้ยว ในการเลือกตั้งต้นปี 2569 ถ้าเขายังเป็นแม่ทัพเพื่อไทยเมืองดอกบัว ต้องเจอคู่แข่งที่น่ากลัว 3 พรรค

 

1.พรรคภูมิใจไทย มี สส.อุบลฯ 3 คนคือ แนน บุณย์ธิดา สมชัย ลูกสาวพ่อใหญ่ อิสสระ สมชัย ,สุทธิชัย จรูญเนตร บ้านใหญ่ตระการพืชผล และ ตวงทิพย์ จินตะเวช บ้านใหญ่เดชอุดม

 

2.พรรคไทรวมพลัง โดยการนำ “มาดามกบ” จิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล ที่มี สส.อุบลฯ 2 คน พิมพกาญจน์ พลสมัคร และสมศักดิ์ บุญประชม

 

3.พรรคประชาชน ที่มี “กระแส” คอยตัดแต้มเพื่อไทย แต่การปักธง สส.เขตของพรรคสีส้ม คงยังเป็นเรื่องยากในสนามอุบลฯ

 

สส.อุบลฯ เพื่อไทย 4 คน ปรากฏว่า วรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์, กิตติ์ธัญญา วาจาดี และธัญธารีย์ สันตพันธุ์ น่าจะเอาตัวรอดได้

 

ผู้ที่สุ่มเสี่ยงจะสอบตกคือ สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ ลูกสาวชูวิทย์ กุ่ย เพราะคู่แข่ง “ตี๋เล็ก” เชิดศักดิ์ โภคกุลกานนท์ ค่ายสีน้ำเงิน ทำงานพื้นที่ต่อเนื่อง

 

ว่ากันตามตรง “กัลป์ตินันท์” ในสีเสื้อเพื่อไทย ดูจะไม่สดใสเหมือน 20 ปีผ่านมา เมื่อนายใหญ่มนต์เสื่อม และกระแสชาตินิยมกำลังมาแรงในชายแดนอีสานใต้