svasdssvasds
เนชั่นทีวี

คอลัมนิสต์

ทางเลือกส้ม “ธนาธร” ดีลฮ่องกงไม่ทันจางกลิ่น “ทักษิณ” เปิดดีลใหม่ไปต่อ

น้ำตาดีลฮ่องกงไม่ทันแห้ง “ธนาธร” พบ “ทักษิณ” ขอเปิดดีลใหม่ไปต่อรอพิสูจน์แดง-ส้ม อุดมการณ์เดียวกันหรือไม่

น้ำตา ธนาธร บทเรียนดีลฮ่องกงไม่ทันแห้ง ทักษิณ ขอเปิดดีลใหม่หนุนชัยเกษม ต่ออายุรัฐบาลเพื่อไทย 4 เดือนก่อนยุบสภา

 

มองเผินๆ ส้ม-แดง เหมือนดีเอ็นเอเดียวกัน แต่ก็ไม่ใช่ มีจุดตัดอยู่ที่เส้นแบ่งพรรคมหาชนกับพรรคบริษัทจำกัด

 

เกมชิงธงจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ระหว่างขั้วน้ำเงินและขั้วแดง จุดชี้ขาดของสงคราม 5 วันอยู่ที่มติขั้วสีส้ม จะยกมือให้ฝั่งไหน

 

ที่น่าระทึกใจ เมื่อ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้พูดคุยกับ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยผู้นำตัวจริงค่ายสีแดงขอเสียงสนับสนุน ชัยเกษม นิติสิริ ให้เป็นนายกฯคนต่อไป

ธนาธร ผู้นำตัวจริง บนทางที่ต้องเลือกอีกครั้ง

 

ธนาธร โยนไปที่การตัดสินใจของพรรคประชาชน ที่ได้เปิด TOR หรือเงื่อนไขของการยกมือสนับสนุนผู้ใดผู้หนึ่งเป็นนายกฯ 2 ข้อคือ 1.ยุบสภาฯภายใน 4 เดือน 2.จัดทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เสร็จในช่วงเวลาดังกล่าว

 

เหตุที่พรรคสีแดงตัดสินใจเลี้ยวกลับมาหาพรรคสีส้ม คงสืบเนื่องมาจากพรรคกล้าธรรม และกลุ่ม 16 ของสุชาติ ชมกลิ่น ย้ายฝั่งไปหนุนเสี่ยหนู จึงทำให้เสียงไม่เพียงพอที่จะไปต่อ

 

พลันที่มีข่าวว่า แกนนำเพื่อไทยขานรับ TOR พรรคประชาชน ก็ตามมาด้วยถ้อยวลี “เราดีเอ็นเอเดียวกัน” หรือ “คนแซ่จึง น่าจะพูดคุยกันรู้เรื่องมากกว่าคนแซ่อื่น”

 

บทเรียนดีลฮ่องกง

 

ช่วงก่อน ทักษิณ ชินวัตร จะเดินทางกลับไทย ก็มีข่าวว่า ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ บินไปพบทักษิณที่ฝั่งเกาลูน ฮ่องกง เวลานั้น ทั้งคู่ปิดปากเงียบ

ผ่านไปเกือบ 2 ปี ธนาธรเพิ่งเล่าความจริงเรื่องดีลฮ่องกง ในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ เมื่อวันที่ 27 ม.ค.2568

 

“ผมกล้าพูดเหมือนกันว่า ในประเทศไทย ไม่มีใครเสียใจกว่าผมแน่ ๆ เสียใจที่เราไม่มีโอกาสไปพัฒนาประเทศ ผมเชื่อว่า มันมีทั้งพลังของเพื่อไทยและก้าวไกล ณ วันนั้น ที่จะผนวกกันเพื่อพาประเทศไทยไปข้างหน้าได้ ผมเสียดายโอกาสตรงนี้มาก”

 

ธนาธร เล่าเบื้องหลัง “ดีลล่ม” หลังการจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้วปี 2566 “...ดูหลังผมสิครับ มีดปักเต็มเลย ไม่กล้านั่งพิงเลย ยังเจ็บอยู่ทุกวันนี้เลยครับ”

 

วันนั้น ธนาธรพูดทั้งน้ำตาผ่านหน้าจอออนไลน์ว่า “พวกเราเสียใจมากจริงๆ วันนั้นที่ไม่ได้ร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทย”

 

ชัยชนะของพรรคก้าวไกลเมื่อ 14 พ.ค.2566 เป็นชัยชนะของประชาชนที่มาเร็วกว่าแกนนำส้มรุ่น 1 คาดคิดไว้ พวกเขาตั้งความหวังไว้สูงลิ่วว่า จะได้ร่วมจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคเพื่อไทย

 

กรณีดีลข้ามขั้ว ธนาธรก็ได้ข้อสรุปเรื่องพรรคการเมืองอีกครั้ง ระหว่าง“พรรคมหาชน” แตกต่างจาก “พรรคเถ้าแก่” อย่างไร

 

พรรคประชาชน ตัวเลือกในวิกฤตการเมืองรอบใหม่

 

จุดตัดครอบครัว-อุดมการณ์

 

หากใครได้อ่านหนังสือ “ปักธงอนาคต The Future is Ours” เขียนโดย เจนวิทย์ เชื้อสาวะถี จะรู้ดีว่า ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ มีเส้นแบ่งระหว่าง “ครอบครัว” กับ “อุดมการณ์ทางการเมือง” ชัดเจนและหนักแน่น

 

ย้อนไปสมัยที่ธนาธรเพิ่งเรียนจบ มีความฝันที่จะเดินทางไปทำงาน NGO ที่แอฟริกา จึงปฏิเสธคำร้องของบิดา-พัฒนา ให้ช่วยทำงานที่โรงงานไทยซัมมิทฯ แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้ไป

 

เมื่อบิดาเสียชีวิต มารดา-สมพร ขอให้ธนาธรเลิกเป็นเอ็นจีโอ มานั่งเก้าอี้ผู้บริหารอาณาจักรไทยซัมมิทกรุ๊ป ซึ่งเขายอมทำตามขอมารดา แต่หัวใจนั้นยังผูกพันกับเพื่อนพ้องน้องพี่ในสมรภูมิการเมืองภาคประชาชน

 

ก่อนหน้าบิดาจะจากไปด้วยโรคมะเร็ง ธนาธรได้พบกับทักษิณเป็นครั้งแรก เมื่อ “อาเจ็ก” สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีคมนาคม รัฐบาลไทยรักไทย พานายกฯสมัยนั้น มาเยี่ยมบิดา(พัฒนา)ที่บ้านพัก

 

หลังจากวันนั้น ธนาธรไม่เคยเจออดีตนายกฯทักษิณอีกเลย และช่วงนั้น เขามีจุดยืนอยู่ตรงข้ามรัฐบาลไทยรักไทย เนื่องจากมีมิตรสหายทำงานเป็นเอ็นจีโอในนามกลุ่มเพื่อนประชาชน (FOP)

 

ก่อนการเลือกตั้งปี 2548 วารสารฟ้าเดียวกัน ที่ธนาธรร่วมกับเพื่อนก่อตั้งสำนักพิมพ์แห่งนี้ขึ้นมา จัดสัมมนาระดมความคิดเรื่อง “ระบอบทักษิณ ความเป็นมา และความเป็นไปในอนาคต” โดยมีนักวิชาการ 30 คนเข้าร่วมอย่างคึกคัก

 

หลังรัฐประหาร 2549 ธนาธรสุดจะทนต่อกลุ่มอนุรักษ์นิยม จึงสนับสนุนเพื่อนพ้องน้องพี่ให้ต่อต้าน คมช. และมีความเห็นอกเห็นใจทักษิณในฐานะผู้ถูกกระทำ

 

ผลการเลือกตั้งปี 2566 พรรคก้าวไกล และ ธนาธร ก็วาดหวังจะได้ร่วมงานกับพรรคของ ทักษิณ แต่ดีลรัฐพันลึกทำให้ฝันนั้นพลันสลาย

 

สัปดาห์แรกของเดือนกันยายน คนไทยทั้งประเทศก็จะได้รับทราบว่า ดีลใหม่ของ ธนาธร-ทักษิณ จะเป็นจริงหรือไม่