"ตู้กรองน้ำครึ่งล้าน" ส่อจบงานซ้ำรอยนาฬิกาหรู!

"โครงการติดตั้งตู้กรองน้ำพลังงานแสงอาทิตย์" ของ ศอ.บต. ยังอยู่ในกระบวนการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่ ศอ.บต.ตั้งขึ้นเอง แต่น่าแปลกผู้บริหาร ศอ.บต.นำทีมเปิดแถลงข่าวใหญ่ตอบโต้ข้อครหาทุกประเด็น โดยไม่รอผลสอบสวนนายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ เลขาธิการ ศอ.บต. ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯ เมื่อปลายเดือนมีนาคมคณะกรรมการสอบสวนฯชุดนี้มี นายอิสระ ละอองสกุล ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธาน และมีกรรมการอีก 6 คน ซึ่งล้วนเป็นข้าราชการใน ศอ.บต.แม้จะมีข้อครหา "ตั้งคนกันเองสอบสวนกันเอง" แต่คณะกรรมการชุดนี้ก็ยังมีสถานะอยู่ และกระบวนการสอบสวนก็ยังดำเนินการอยู่ เพราะคำสั่งของนายศุภณัฐ กำหนดให้สรุปรายงานผลการสอบสวนเสนอกลับมาภายในวันที่ 10 เม.ย.61

ประธานคณะกรรมการสอบสวนฯ เคยบอกกับ "ล่าความจริง" ว่า ได้วางแนวทางการสอบสวนเอาไว้ 3 ประเด็น คือเรื่องราคา เรื่องความคุ้มค่า และการจัดซื้อด้วย "วิธีพิเศษ" โดยมีแนวคิดจะดึง "หน่วยงานกลางจากภายนอก" ที่ไม่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ เข้ามาช่วย "ประเมินราคา" ตู้กรองน้ำด้วยแต่น่าแปลกหรือไม่ที่จู่ๆ ผู้บริหาร ศอ.บต. นำโดยนาย ศุภณัฐ กลับนำทีมเปิดแถลงข่าวใหญ่โตตอบโต้ข้อครหาทุกประเด็นโดยไม่รอผลสอบสวนของคณะกรรมการฯ ทั้งเรื่องความโปร่งใส ความคุ้มค่า เรื่องราคา และการจัดซื้อวิธีพิเศษ คำถามหลังการแถลงข่าวใหญ่ก็คือ แล้วอย่างนี้จะมีคณะกรรมการสอบสวนฯไปเพื่ออะไร และคณะกรรมการสอบสวนฯจะทำอะไรได้อีก เพราะผู้บริหาร ศอ.บต.ซึ่งมีตำแหน่งสูงกว่านายอิสระ และเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของประธานคณะกรรมการสอบสวนฯ ออกมาแถลงยืนยันเสียขนาดนี้

นี่ยังไม่รวมถึง "พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์" พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ผู้ลงนามอนุมัติให้โอนงบประมาณเหลือจ่ายจากโครงการอื่นไปจัดซื้อ "ตู้กรองน้ำ" ที่ออกมายืนยันในวันเดียวกับที่ผู้บริหาร ศอ.บต.แถลงข่าวใหญ่ว่า "โครงการนี้ไม่มีประเด็นอะไร" และ "ราคาที่ ศอ.บต.จัดซื้อก็ถูกกว่าราคาปกติ"เมื่อทั้งระดับรัฐมนตรีและผู้บริหาร ศอ.บต.สรุปล่วงหน้าแบบนี้ คณะกรรมการสอบสวนฯคงไม่ต้องทำงานกันต่อแล้ว หรือถ้าจะสอบต่อไป ก็คงสรุปเป็นอย่างอื่นไม่ได้ เพราะผู้บังคับบัญชาได้ "ชี้นำ" ผลสอบเอาไว้ทุกประเด็น

เหตุการณ์แบบนี้ทำให้หลายคนย้อนคิดไปถึงการตรวจสอบการครอบครอง "นาฬิกาหรู 25 เรือน" ของ พลเอกประวิตร ซึ่ง ป.ป.ช.สอบหาข้อมูลเบื้องต้นมานานถึง 4 เดือนแล้ว แต่ยังแทบไม่มีความคืบหน้า ขณะที่ตัว พลเอกประวิตร เอง กลับให้สัมภาษณ์ตอกย้ำชี้นำว่า "เรื่องนี้จบแล้ว เพราะยืมเพื่อนมา"