ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายสุชาติ ปิ่นจันทร์ ประธานคณะทำงานด้านไม้ผล สภาเกษตรกรจังหวัดอุตรดิตถ์ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย หลังรับแจ้งจากชาวสวนผลไม้ ต.แม่พูล อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ว่า สวนทุเรียนได้รับผลกระทบหลังเกิดพายุฤดูร้อน
ทั้งนี้ นายสุชาติและนายประทีป แก้วผิว เจ้าของสวนทุเรียน ต่างอยู่ในอาการเศร้าเสียใจ สะเทือนใจ เมื่อพบว่าต้นทุเรียนหลงลับแลอายุ 130 ปี ขนาด 1 คนโอบ ที่กำลังติดผลอ่อน และอีก2เดือน หรือเดือนมิถุนายน ที่จะถึง จะสามารถเก็บผลผลิตขายสร้างรายได้หลังเฝ้าบำรุงดูแลมาตลอดฤดูกาล แต่กลับมาถูกความแรงของพายุฤดูร้อนกระหน่ำเพียง 1 ชั่วโมง จนต้นหักโค่นชนิดถอนรากถอนโคน กิ่งก้านหัก ผลทุเรียนร่วงหล่นโดยปีที่ผ่านมาเฉพาะต้นทุเรียนหลงลับแลอายุ 130 ปี ต้นเดียวให้ผลผลิต300ลูก ขายส่งกิโลกรัมละ 100 บาท สร้างรายได้เกือบ 1 แสนบาท เจ้าของทำได้เพียงทำใจ และให้ทุเรียนต้นดังกล่าวกำลังกลายเป็นตำนาน เพราะต้นจะแห้งตายไปในที่สุด
นายสุชาติ กล่าวว่า ด้วยราคาที่ค่อนข้างสูงและความนิยมของผู้บริโภค ทำให้ชาวสวนต่างใสใจดูแลสวนเป็นอย่างดี ประกอบกับปีที่ผ่านมาเจอวิกฤติแล้งและไฟป่า ปีนี้ทุเรียนลับแลติดดอกและผลอ่อนสมบูรณ์ ไม่คาดคิดว่าพายุฤดูร้อนที่มาเพียง1ชั่วโมงจะสร้างความเสียหายซ้ำเติมชาวสวนลับแลอีกครั้งเบื้องต้นรับแจ้งมีต้นทุเรียนหลงลับแล -หลินลับแล ที่กำลังติดผลอ่อนหักโค่นแล้วกว่า 60 ต้น ยังไม่รวมทุเรียนหมอนทอง ซึ่งหากปลูกทดแทนต้องใช้เวลาปลูกอีกกว่า8ปีจึงได้ให้ผลผลิต เชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อผลผลิตทุเรียนลับแลปีนี้ลดลงกว้าร้อยละ 50