เลือกตั้งอินเดียเฟส 2 ท่ามกลางอากาศ-การเมืองร้อนระอุ

ผู้มีสิทธิเลือกตั้งหลายล้านคนทยอยใช้สิทธิออกเสียงเพื่อเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือโลกสภา 88 ที่นั่ง ใน 13 รัฐ และดินแดนสหภาพในวันศุกร์ (26 เมษายน 2567) โดยเป็นการเลือกตั้งระยะที่ 2 ของการเลือกตั้ง สส. ทั้งหมด 543 ที่นั่งใน 28 รัฐ และ 9 ดินแดนสหภาพ ที่แบ่งเป็น 7 ระยะ และจะสิ้นสุดในวันที่ 1 มิถุนายน

ประชาชนต้องฝ่าสภาพอากาศร้อนไปใช้สิทธิตามหน่วยเลือกตั้ง ในขณะที่คลื่นความร้อนจะแผ่ปกคลุมภาคใต้และตะวันออกของอินเดียไปจนถึงสุดสัปดาห์นี้  ซึ่งรวมถึง 4 รัฐ ที่มีการเลือกตั้งในวันนี้ และกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่า อุณหภูมิจะสูงเกิน 40 องศาเซลเซียสในบางพื้นที่ 

คณะกรรมการการเลือกตั้ง สำนักงานบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติ และกรมอุตุนิยมวิทยาได้จัดตั้งคณะทำงานเพื่อบรรเทาผลกระทบจากคลื่นความร้อนตั้งแต่ช่วงก่อนเริ่มการเลือกตั้งแล้ว และมีการออกคำแนะนำต่าง ๆ เช่น ให้ประชาชนเตรียมน้ำดื่มและพกร่มขณะไปใช้สิทธิเลือกตั้ง และอย่าปล่อยให้เด็กหรือสัตว์เลี้ยงอยู่ในรถยนต์ที่จอดไว้

แม้อินเดียประสบคลื่นความร้อนที่มาเร็วขึ้นและยาวนานขึ้นในช่วงหลายปีนี้ แต่นักวิเคราะห์ บอกว่า สภาพอากาศกลับไม่ได้เป็นประเด็นใหญ่ของการหาเสียงเลือกตั้ง ทั้งที่มีการระบุไว้ในเอกสารนโยบายเลือกตั้งของสองพรรคใหญ่ ได้แก่ พรรคภารติยะ ชนะตะ (BJP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล และพรรคคองเกรสแห่งชาติ ที่เป็นพรรคฝ่ายค้านหลัก 

นอกจากสภาพอากาศแล้ว บรรยากาศการเมืองก็ร้อนระอุเช่นกัน หลังจากนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี กล่าวโจมตีพรรคคู่แข่งระหว่างการหาเสียงเมื่อวันอาทิตย์ว่า “หากพรรคคองเกรสชนะเลือกตั้งและได้เป็นรัฐบาล ก็จะนำทรัพย์สินของพวกคุณไปแจกจ่ายให้คนที่มีลูกมากและเป็นพวกแทรกซึม” ซึ่งถูกมองว่า เป็นการพูดจาพาดพิงชาวมุสลิมที่เป็นชนกลุ่มน้อย และพรรคคองเกรสตอบโต้ว่า โมดีใช้คำพูดสร้างความเกลียดชัง (hate speech) และเป็นการกระทำที่ละเมิดกฎหมายเลือกตั้ง ที่ห้ามหาเสียงเกี่ยวกับความรู้สึกด้านวรรณะและศาสนา

นักวิเคราะห์ มองว่า โมดีซึ่งเป็นหัวหน้าพรรค BJP ที่มีนโยบายชาตินิยมฮินดู พยายามเรียกคะแนนเสียงจากกลุ่มชาวฮินดู ที่เป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ

ผลเลือกตั้งเฟส 2 ที่มีจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 160 ล้านคน จะมีความสำคัญต่อชัยชนะของ BJP อย่างมาก เพราะอยู่ในรัฐที่เป็นฐานเสียงของพรรค อย่าง รัฐราชาสถาน, รัฐมัธยประเทศ รัฐอุตตรประเทศ และรัฐมหาราษฏระ

โมดีคาดหวังอย่างมากว่า พรรค BJP  ที่ครองเสียงในภาคเหนือ ตะวันตก และตะวันออกเฉียงเหนือ จะสามารถขยายฐานไปยังภาคใต้และภาคตะวันออก และได้รับเลือกตั้งมากถึง 370 ที่นั่ง จากทั้งหมด 543 ที่นั่ง ขณะที่ปัจจุบันมี 303 ที่นั่ง และชัยชนะครั้งนี้จะทำให้เขาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีติดต่อกันเป็นสมัยที่ 3