เพาะเสือโคร่งคืนป่าธรรมชาติ

ผู้อำนวยการอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช นางเตือนใจ นุชดำรงค์ บอกว่า หลังจากประเทศไทยเคยลงนามในอนุสัญญาเซนต์ปีเตอร์เบิร์กว่าจะทำเพิ่มประชากรเสือโคร่งในธรรมชาติให้ได้ร้อยละ 50 ภายในปี 2565 ร่วมกับอีก 10 ประเทศที่มีเสือโคร่งในธรรมชาติ เช่น อินเดีย จีน ไทย ซึ่งตอนลงนามขณะนั้นไทยมีเสือโคร่งเหลือตามธรรมชาติอยู่ประมาณ 200-250 ตัว โดยส่วนใหญ่อยู่ที่ห้วยขาแข้ง
ดั้งนั้นกรมอุทยานฯ กำลังศึกษาการเพาะพันธุ์เสือโคร่งอยู่สองวิธี //วิธีแรกคือ การเอาเสือที่เลี้ยงในกรงมาฝึกพฤติกรรมการล่าแล้วปล่อยกลับสู่ธรรมชาติ อย่างกรณีเสือของวัดป่าหลวงตา-มหาบัว ที่มีประมาณ 10 กว่าตัวและเป็นสายพันธุ์พวกนี้สามารถเลี้ยงในกรงแล้วหาสายพันธุ์อื่นมาผสมให้ได้ลูก แล้วนำลูกไปฝึกการล่าเพื่อให้ดำรงชีวิตตามธรรมชาติได้ ก่อนปล่อยคืนสู่ป่า และ วิธีต่อมาที่กำลังศึกษา คือแนวคิดการนำเสือจากที่หนึ่งมาปล่อยอีกที่หนึ่ง ซึ่งไม่สามารถเพาะพันธุ์ได้ในแหล่งเดียว จึงต้องนำเสือจากที่หนึ่งไปปล่อยอีกที่หนึ่ง เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการเพาะพันธุ์
ผู้อำนวยการอนุรักษ์สัตว์ป่า บอกว่า ประเทศที่ประสบความสำเร็จในการเพาะพันธุ์เสือโดยใช้ทั้งสองวิธีคือประเทศอินเดีย ส่วนหนึ่งเพราะมีกฎหมายที่เข้มงวด ต่างจากไทยที่มีกฎหมายล้าหลังทำให้คนที่ถูกจับไม่โดนลงโทษ