svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

โพลล์ระบุ แกนนำชุมชนพอใจ "ประยุทธ์" ทำงาน

31 สิงหาคม 2557
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

31 ส.ค.57 - มาสเตอร์โพลล์ระบุ แกนนำชุมชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 622 ชุมชน พอใจ "ประยุทธ์" ทำงาน 8.83 คะแนน

มาสเตอร์โพลล์--31ส.ค.2557--รศ.ดร.เชษฐ รัชดาพรรณาธิกุล รองประธานชมรมนักวิจัยไทยเพื่อความสุขชุมชน (Thai Researchers in Community Happiness Association, TRICHA) เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจมาสเตอร์โพลล์ (Master Poll) เรื่อง สำรวจแนวโน้มจุดยืนของแกนนำชุมชนต่อ คสช.หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี กรณีศึกษาตัวอย่างแกนนำชุมชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 622 ชุมชน ดำเนินโครงการในวันที่ 29 - 30 สิงหาคม 2557 ที่ผ่านมา ผลการสำรวจพบว่า
แนวโน้มจุดยืนของแกนนำชุมชนในการสนับสนุนคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เพิ่มสูงขึ้น ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี จากร้อยละ 70.1 เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ร้อยละ 75.4 เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ร้อยละ 68.6 เมื่อวันที่1 ส.ค. ร้อยละ 76.8 เมื่อวันที่ 8 ส.ค. และล่าสุด ขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 85.5 เมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมานี้
เมื่อถามถึงความพึงพอใจของแกนนำชุมชนต่อ การปฏิบัติงานของ คสช. ด้านต่างๆ ล่าสุด พบ 10 อันดับแรกของการปฏิบัติงานโดย คสช. ที่แกนนำชุมชนพอใจในแนวทางที่ออกมา ได้แก่ อันดับที่1 คือ การสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาของประชาชน ได้ 8.51 คะแนน อันดับที่ 2 คือ การบริหารราชการแผ่นดินของ คสช. ทั้งในระบบกฎหมายและระเบียบปกติ ได้ 8.50 คะแนน อันดับที่3 ได้แก่ การป้องกันการบุกรุกพื้นที่ป่า ได้ 8.46 คะแนน อันดับที่ 4 ได้แก่ การปรับปรุงการศึกษาทั้งระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับปรุงหลักสูตร ครูผู้สอน และการใช้จ่ายงบประมาณ ได้ 8.45 คะแนน และอันดับที่ 5 ได้แก่ การพัฒนาด้านการสาธารณสุขของประเทศให้ทั่วถึง ได้ 8.43 คะแนน และรองๆ ลงไปคือ ความคืบหน้าการลงทะเบียนแรงงานต่างด้าว การบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวในประเทศ การแก้ไขปัญหาด้านพลังงาน การตรวจสอบการบริหารจัดการรัฐวิสาหกิจด้านพลังงาน การปฏิรูประบบขนส่งมวลชนทั้งคุณภาพและการให้บริการประชาชน การตรวจสอบคุณภาพข้าว การระบายข้าว การสร้างความเชื่อมั่นให้กับต่างประเทศเรื่องคุณภาพข้าว และการจัดระเบียบเรื่อง อุ้มบุญ การปรับปรุงข้อกฎหมายเรื่องการอุ้มบุญให้ชัดเจน ตามลำดับ
นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 91.8 ระบุมีความจำเป็นที่เร่งด่วนในการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ เพราะจะทำให้เกิดปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ผิดหลักมนุษยธรรม และต่างชาติจะกีดกันทางการค้าในสินค้าที่ใช้แรงงานและส่งผลเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ เป็นต้น และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 85.5 ระบุมีความจำเป็นต้องเร่งแก้ปัญหาการค้างาช้างที่ผิดกฎหมาย เพราะเป็นการส่งเสริมให้คนทำผิดหลักศีลธรรมและต่างชาติจะกีดกันทางการค้าในสินค้าประเภทพืชและสัตว์ ทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยทั้งประเทศ เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 86.3 ระบุมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องแก้ปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมาย เพราะเป็นการทำลายทรัพยากรทางทะเลและธรรมชาติของประเทศไทย และทำให้ต่างชาติจะกีดกันสินค้าทางทะเลของประเทศไทย สร้างความเสียหายต่อการจ้างงานด้านการประมงและระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ เป็นต้น
ที่น่าพิจารณาคือ แนวโน้มความพึงพอใจของแกนนำชุมชนต่อการทำงานที่ผ่านมาของคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือ คสช. พบว่า มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากการสำรวจครั้งก่อนที่อยู่ที่ 8.64 คะแนน เมื่อคะแนนเต็ม10 มาอยู่ที่ 8.83 คะแนนในการสำรวจครั้งล่าสุด และผลสำรวจยังพบด้วยว่า ความสุขของแกนนำชุมชนเพิ่มขึ้นเมื่อน้ำมันลดราคา ตามแผนบริหารจัดการพลังงานโดย คสช. คือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 88.1 มีความสุขเพิ่มขึ้น เมื่อน้ำมันราคาลดลง

logoline