กลุ่มการเมือง เคลื่อนไหวให้มีการทำประชามติ

รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ชวลิต วิชยสุทธิ์ พูดถึงกรณีคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง จะเชิญตัวแทนพรรคการเมืองไปพูดคุยเพื่อวางแนวทางการปฏิรูปร่วมกันว่า ได้ปรึกษากับคุณภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคแล้วมีความเห็นตรงกันว่า จะไม่ส่งในนามตัวแทนพรรค เพราะเรายังไม่เห็นหนังสือ แต่ะส่งไปในนามส่วนตัว เพื่อให้ความเห็นปรากฏต่อสาธารณะ ส่วน กมธ.จะเอาไปใช้หรือไม่นั้น ก็ถือว่าพรรคได้แสดงจุดยืนหลักการสำคัญคือต้องผ่านความเห็นชอบจากประชาชน

ด้านรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ องอาจ คล้ามไพบูลย์ บอกว่า ร่างรัฐธรรมนูญจะใช้กับประชาชนทั้งประเทศ ไม่ได้ใช้เพื่อประโยชน์ของใครคนใดคนหนึ่ง จึงต้องแสวงหาความร่วมมือเพื่อให้รัฐธรรมนูญออกมามีผลบังคับใช้ให้ประเทศเดินหน้าต่อได้

โดย กมธ.ต้องแสดงให้สังคมเห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ไม่มีวาระซ่อนเร้น ต้องไม่มีอคติ หรือ ดูหมิ่นฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด กมธ.ยกร่างฯควรลดอัตตาเปิดใจรับฟังให้รอบด้าน สร้างบรรยากาศส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน และร่วมตัดสินใจอย่างแท้จริง ผ่านการทำประชามติ

ขณะที่ คุณสุริยะใส กตะศิลา อาจารย์วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต และ ผู้อำนวยการสถาบันปฏิรูปประเทศไทย บอกว่า เป็นเรื่องยากที่คณะกรรมาธิการยกร่างจะทบทวนประเด็นที่กำลังมีการโต้แย้งกันอยู่ในขณะนี้ เพราะระบบคิดของกรรมาธิการได้วางโครงสร้างของระบบการเมืองค่อนข้างใหม่ เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เข้มข้นกว่ารัฐธรรมนูญปี 2540 และ 2550 ทั้งระบบเลือกตั้งแบบสัดส่วนผสม และโครงสร้างพรรคการเมือง

ดังนั้นจึงอยากเห็นประชาพิจารณ์ ก่อนการทำประชามติ ซึ่งถือเป็นกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันของสังคมไปด้วย