กะปิ ประมาณ 5 ช้อนโต๊ะ ขึ้นอยู่กับความเค็มของกะปิด้วย ลองชิมดูก่อนครับ
กะทิ ครึ่ง กก. แบ่งหัวหาง
ในส่วนของเครื่องแกง
พริกแห้งใหญ่ 15-20 เม็ด หากไม่อยากให้เผ็ด เคาะเม็ดออกก่อนนำไปแช่น้ำ
หอมแดงหั่น ครึ่งถ้วย
กระเทียม ครึ่งถ้วย
ตะไคร้ซอย จะได้โขลกง่ายๆ 1/4 ถ้วย
พริกขี้หนูสวน 10-20 เม็ดแต่งหน้า
ใบมะกรูดซอย
เครื่องปรุง
น้ำตาลทราย 1 ชต
น้ำตาลปี๊บ 1 ชต
น้ำปลา ชิมก่อนปรุง ว่ากะปิเค็มรึยัง ส่วนของผมใส่แค่ ครึ่ง ชต. ให้หอมนิดๆ
วิธีทำ
นำพริกแห้งใหญ่ที่แช่รอไว้ หั่นเล็กๆลงครก โขลกละเอียด
ตามด้วยตะไคร้ ลงโขลกละเอียด
ตามด้วยกระเทียม หอมหั่น โขลกพอละเอียด
ใส่กะปิลงโขลก คลุกเคล้าให้เข้ากันดี
สูตรที่ได้มาจากแม่ๆที่ระยอง แกให้ตั้งหัวกะทิ ทำเป็นน้ำมันขี้โล้ก่อน
น้ำมันขี้โล้คือการนำหัวกะทิไปตั้งไฟแรงให้แตกมัน โดยต้องคอยกวนก้นกระทะไม่งั้นจะไหม้
เคี่ยวจนแตกมันน้ำมันจะลอยขึ้นแยกจากหัวกะทิที่เป็นขี้โล้อยู่ก้นกระทะ ใช้เวลาประมาร 15-20 นาที ใจเย็นๆ อร่อยตรงนี้
หลังจากได้กะทิเป็นน้ำมันขี้โล้แล้ว ปรับไฟอ่อนถึงกลาง น้ำเครื่องแกงลงผัด ใจเย็นๆ ยิ่งผัดนานเราจะได้ความหอมของกะปิที่ค่อยๆสุก ส่งกลิ่นออกมา และรอให้กระเทียมและหอมในเครื่องแกงสุกจะได้ความหอมและหวานออกมาด้วย ผัดประมาณ 20-30 นาที
คอยเติมหากะทิเพิ่มไปทีละน้อย ละน้อย แห้งก็เติม ลักาณะจะข้น เหนียว ไม่เหลวเป็นน้ำแกง จากนั้นชิม ปรุงรสด้วยน้ำตาล 2 ชนิด และน้ำปลานิดหน่อย จากนั้นปิดไฟ โรยด้วยใบมะกรูดซอย โรยด้วยพริกขึ้หนูสวน เหลือไว้แต่งหน้าเมื่อตักใส่ถ้วยบ้าง
ตักใส่ถ้วย จัดจานเสิร์ฟกับผักสด ของน้าแนะนำว่าลองจับคู่กับผักกาดดองซอยและล้างน้ำบีบน้ำออกก็เข้ากันเป็นอย่างดี หรือจะเป็น มะเขือเปราะ หรือแตงล้าน แตงกวา ถั่วฝักยาวกอร่อยไม่ใช่เล่นๆ
การเก็บน้ำใส่กระปุกทัปเปอร์แวร์มีฝาปิด ใส่ตู้เย็น เพราะมักะทิ อากาศร้อนๆ ไว้นอกตู้เย็นจะเสียง่าย
ขอให้มีความสุขกับการทำอาหารครับ