ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยกิจกรรมเริ่มจากกลุ่มแม่บ้านจาก 10 ตำบล โชว์เมนูเด็ดที่ทำมาจากปลาน้ำ จืด จากเขื่อนสิริกิติ์ เช่นปลาตะโกกเผา ปลานึ่งมะนาว ห่อหมกปลา ต้มยำปลาบึก และอีกมากมายจนคณะกรรมการทึ่งและยากต่อการตัดสิน เพราะแต่ละเมนูสุดยอดในรสชาติจริงๆ ดีที่มีโทรศัพท์มือถือเป็นตัวช่วยในการคำนวณคะแนนที่ให้เป็นจุดทศนิยมและช่วงไฮไลท์ของงาน คือการแข่งขันกินปลาเผา
โดย 10 ตำบลส่งตัวแทนลงแข่นขันกินปลาเผาตัวละ 1.30 กิโลกรัม น้ำจิ๋ม 1 ถ้วย น้ำเปล่า 1 แก้ว ภายในเวลา 3 นาที เมื่อกรรมการเป่านกหวีด ผู้แข่งขันแต่ละคนเอาจริงเอาจังต่อการรับประทานปลาเผา โดยเฉพาะพี่เสื้อสีฟ้าและเสื้อสีเหลือง กินแบบมือเปิบ เสียงกองเชียร์เตือนให้ระวังก้าง ปักมือและติดคอ เมื่อหมดเวลา นายเฉลียว ปิ่นแจ้ง คว้าแชมป์ไปครองได้รับรางวัลเงินสด 1,000 บาทพร้อมปลาเผา 1 ตัวต่อด้วยการแข่งขัน กินข้าวบายปลา ที่คนรุ่นใหม่แทบไม่รู้จักกับอาหารประเภทนี้ นั่นก็คือนำข้าวเหนียวนึ่งสุกมาทำเป็นแผ่น โรยเหลือและเนื้อปลา ทำเป็นแท่งยาว พอรับประทานได้ 1 มื้อต่อ 1 คน ชาวท่าปลาหรือคนภาคเหนือนิยมทำข้าวบายปลากินตอนที่เร่งรีบ หรือออกทำงาน พกติดตัวด้วย สะดวกรวดเร็ว และมีคุณค่าทางโภชนาการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กติกาผู้ลงแข่งขันไม่จำกัดรุ่นใครกินข้าวบายปลา 5 ชิ้นพร้อมน้ำอัดลม 1 ขวดหมดก่อนชนะเลิศ ตัวแทนจากนายพงศกร ธิจร ตัวแทนจาก อบต.ผาเลือด คว้ารางวัลไปครอง
นายเกียรติพันธุ์ กล่าวว่า ซึ่งกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อสืบสานวัฒนธรรมประเพณีของชาวท่าปลา ที่พลิกชีวิตจากชาวไร่เป็นชาวประมง หลังการสร้างเขื่อนสิริกิติ์ และต้องการให้ลูกหลานไม่ลืมที่มาของบรรพบุรุษตัวเอง และเชิญชวนนักท่องเที่ยว มาเยือนอำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ ทั้งเขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนดินช่องเขาขาด ที่ฤดูหนาวชมทะเลหมอกกลางอ่างเก็บน้ำ วิถีชีวิตชาวประมงน้ำจืด และกิจกรรมบนแพท่องเที่ยว