svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

นำกำลังทลายแหล่งรับซื้อ "น้ำมันเถื่อน" ริมถนนสายเอเซีย

25 กรกฎาคม 2557
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ผู้บังคับการตำรวจภูธรอ่างทอง นำกำลังตำรวจ-ทหาร เข้าตรวจค้นแหล่งรับซื้อน้ำมันเถื่อน ริมถนนสายเอเซีย เขต อ.ไชโย ลูกจ้างให้มีรถน้ำมันขนดีเซลมาขายให้ ลิตรละ 22 บาท รับซื้อต่อคันเฉลี่ยที่ 100- 200 ลิตร ส่วนลูกค้าที่มาซื้อไปจะเป็นกลุ่มปั๊มขนาดเล็ก


15.30  น. วันที่ 25 ก.ค.  พล.ต.ต. สมศักดิ์ โอภาสเจริญกิจ ผบก.ภ.จว.อ่างทอง นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทหาร  เข้าตรวจค้นแหล่งรับซื้อน้ำมันเถื่อนข้างปั้มน้ำมันดีเซลราคาถูก  ริมถนนสายเอเซีย เลขที่ 111/1 หมู่ที่ 1 ต.ชัยฤทธิ์ อ.ไชโย จ.อ่างทอง หลังรับแจ้งว่าเป็นสถานที่ลักลอบรับซื้อขายน้ำมัน จากรถขนส่งน้ำมัน โดยพบว่าบริเวณด้านหลังปั้มน้ำมัน เป็นโรงสังกะสี จำนวน 2 โรง
โรงแรกสร้างเป็นที่พักของคนงานและเป็นที่เก็บน้ำมัน ส่วนด้านหลังเป็นโรงรับซื้อขายขายน้ำมัน ซึ่งภายในเก็บถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร อยู่เป็นจำนวนมาก และยังพบอุปกรณ์ในการดูดน้ำมันจากรถน้ำมันที่มาลักลอบขาย ใบเสร็จในการซื้อขายน้ำมัน และบัญชีรายรับรายจ่าย บัญชีธนาคารซึ่งระบุมีเงินเข้า-ออก  วันละกว่าแสนบาท
นอกจากนั้น บริเวณใกล้เคียงยังพบนางนงนุช เฮงสา อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34 หมู่ 4 ต.ตลาดน้อย อ.บ้านหม้อ จ.สระบุรี เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไป ก็ได้เข้าไปหลบอยู่ในอู่ซ่อมรถข้างเคียง และถูกตามจับกุมในที่สุด
นางนงนุช กล่าวว่า ตนเป็นลูกจ้าง ส่วนเจ้าของตนไม่รู้จักชื่อจริง โดยจะเรียกเจ้าของว่า อาโก ตนเพิ่งเข้ามาทำงานได้เพียง 6 เดือน โดยมีหน้าที่เป็นเสมียนและคอยดูแลการรับซื้อ   ส่วนน้ำมันที่ซื้อขายนั้นเป็นน้ำมันที่รับซื้อจากรถบรรทุกน้ำมันที่แอบมาขายให้  โดยต่อคันจะรับซื้อ  100-200 ลิตร  รับซื้อเฉพาะน้ำมันดีเซล  ในราคาลิตรละ 22 บาท วันหนึ่งจะมีรถวิ่งเข้ามาขายน้ำมัน วันละ 20 คัน
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวนายศักดิ์ชัย แดงประเทือง อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 หมู่ 7 ต.คชสิทธิ์ อ.หนองแค จ.สระบุรี ซึ่งหลบหนีออกไปก่อนหน้าที่ได้ที่ริมถนนสายเอเซีย ห่างจากที่เกิดเหตุไม่กี่กิโลเมตร โดยนายศักดิ์ชัย ก็ยอมรับว่าตนเป็นลูกจ้างเช่นกัน มีหน้าที่รับลงน้ำมันเท่านั้น
ต่อมา  นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สรรพสามิต ได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุ และเข้าตรวจสอบโดยยืนยันว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นการลักลอบซื้อขายน้ำมันที่ผิดกฎหมาย และเมื่อเจ้าหน้าที่สรรพสามิตตรวจสอบโดยรอบก็พบซีลปิดฝาถังน้ำมันระบุชื่อบริษัทหลายบริษัท ที่คนขับรถบรรทุกน้ำมันแกะออกจากฝาถังเพื่อดูดน้ำมันออกขาย โดยนายปวิณ  ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบน้ำมันว่ามาจากแหล่งใดบ้าง และเร่งติดตามหาตัวเจ้าของกิจการมาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากสถานที่ดังกล่าวเป็นสถานที่ลักลอบซื้อขายน้ำมันที่ผิดกฎหมาย
พล.ต.ต. สมศักดิ์ โอภาสเจริญกิจ ผบก.ภ.จว.อ่างทอง   กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่าสถานที่ดังกล่าวมีการลักลอบซื้อขายน้ำมัน จากรถบรรทุกน้ำมันหลายบริษัทฯ จึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าสังเกตความเคลื่อนไหว  จนพบว่ามีรถบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่วิ่งเข้ามาขายน้ำมันให้วันละหลายคัน จึงได้วางแผนเพื่อจู่โจมเข้าจับกุม ขณะกำลังลักลอบถ่ายน้ำมัน แต่เกิดการผิดพลาดทางคนงานเกิดไหวตัวทัน  มีการนำเอกสารสำคัญหลายอย่างหลบหนีไปเสียก่อน ซึ่งพบเพียงนางนงนุช และนายศักดิ์ชัย จึงควบคุมตัวไว้ทำการสอบสวน เพื่อหาเจ้าของที่แท้จริงต่อไป สำหรับสถานที่ดังกล่าวถือว่าเป็นแหล่งรับซื้อขายน้ำมันรายใหญ่ในภาคกลาง
รายงานข่าว แจ้งว่า  สถานที่ดังกล่าวนี้เรียกกันว่า "คอกขายน้ำมัน" หลังจากที่ทำการซื้อน้ำมันจากรถขนส่งน้ำมันแล้ว จะมีปั้มน้ำมันราคาถูกในละแวกพื้นที่มารับซื้อไปขายต่อ ในราคาลิตรละ 30 บาท โดยส่วนใหญ่จะเข้ามาซื้อในตอนกลางคืน ตกราคาที่ซื้อขายกันประมาณลิตรละ 27 บาท นอกจากนั้น ยังมีคนมีสีเข้ามามีส่วนได้ส่วนเสียกับกิจการนี้ด้วย

logoline