svasdssvasds
เนชั่นทีวี

วีดิโอ

ผ่าวิสัยทัศน์ "เศรษฐา ทวีสิน" ว่าที่นายกรัฐมนตรี" จากพรรคเพื่อไทยตัวจริง?

11 เมษายน 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"รายการคมชัดลึก" โดย "วราวิทย์ ฉิมมณี" ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ระดับเอ็กคลูซีฟ "เศรษฐา ทวีสิน" แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย หลากหลายมุมมองที่ยังไม่เคยเปิดเผย (ชมคลิป)

"ผมเป็นคนที่ชัดเจนในหลักการ ถ้าเกิดว่าตำแหน่งที่เราคิดว่าเหมาะสม สามารถนำความเปลี่ยนแปลงมาได้อย่างมีนัย ก็คือคำแหน่งนายกรัฐมนตรี..."

"เศรษฐา  ทวีสิน" ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย 

หนึ่งในสามบัญชีรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทย เป็นที่ปรากฎไปแล้วว่า คือ "เศรษฐา  ทวีสิน" ซีอีโอธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จากเครือแสนสิริ  วันนี้เขาได้ลาออกจากตำแหน่งในบริษัทเอกชน เพื่อเดินหน้าเต็มตัวบนสนามการเมือง"เลือกตั้ง66 "

วิสัยทัศน์ "เศรษฐา" ว่าที่นายกฯ ตัวจริง?

"วราวิทย์" จากการที่เป็นนักธุรกิจแต่งตัวใส่สูททำงานอยู่ในห้องแอร์ พอไปเจอชีวิตจริงๆ"คุณเศรษฐา"เรียนรู้อะไรบ้าง

"เศรษฐา" ส่วนมากของพี่น้องประชาชนที่ได้ยินและรับฟังมา มันเป็นการสื่อสารทางเดียว ผมว่ามันไม่ได้เป็นกระจกสะท้อนความเป็นจริงเท่าไหร่ เพราะได้อ่านอย่างเดียวได้เห็นมุมมองเดียวที่คนที่นำเสนออยากจะพูด แต่การที่ลงพื้นที่ไปมันมีการตอบโต้กันมีการแย้งกัน และแววตาของพี่น้องบ่งบอกความลึกถึงปัญหาเหมือนกัน

ผ่าวิสัยทัศน์ "เศรษฐา ทวีสิน" ว่าที่นายกรัฐมนตรี" จากพรรคเพื่อไทยตัวจริง?

"วราวิทย์" พอได้รับฟังสิ่งที่เขาสะท้อนกลับมาแล้ว เหมือนหรือต่างยากกว่าที่เราคิดไว้มั้ย ที่อาจจะใช้ประสบการณ์จากการบริหารธุรกิจมาใช้กับการบริหารประเทศ

"เศรษฐา" ไม่ต่างกัน ตรงที่มันมีปัญหาซ้อนปัญหาความลึกของปัญหามันก็ต่างกันไปแต่ว่า ทั้งนี้เวลาไปลงพื้นที่มาพอได้มีการตอบโต้กันก็ต้องยอมรับว่าบางปัญหาไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด อย่างที่เราได้เห็นภาพ แต่ผมเชื่อประสบการณ์ที่ผมสะสมมาและทีมงานพรรคเพื่อไทยก็จะสามารถหาคำตอบได้เกือบทุกอัน เรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องของการบริหารความคาดหวังนิดนึง ว่าปัญหาบางปัญหาไม่ได้อาจะแก้ไขได้ในเทอมเดียว 4 ปีมันรากลึกมาก

"วราวิทย์" ย้อนไปเมื่อวันที่ 5 เมษายน ที่มีการเปิดตัวนายกรัฐมนตรีครบทั้งสามคน หลายคนจับสังเกตถ้อยแถลงบนเวทีวันนั้น ของ"คุณเศรษฐา"ดูจะมีคำพูดที่ระบุเจาะจงชัดเจน เช่น ผมพร้อมเป็นผู้นำคนถัดไปของประเทศ อันนี้เป็นการส่งสัญญาณแล้วหรือป่าวว่า"คุณเศรษฐา ทวีสิน" คือนายกฯตัวจริงเบอร์หนึ่งของพรรคเพื่อไทย

"เศรษฐา" คงไม่ใช่หรอกครับ ณ เวลานั้นผมเป็นคนแถลงต้องแสดงวิสัยทัศน์ว่าตัวผมเองพร้อมที่จะรับตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชน ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหารพรรค ขึ้นอยู่กับส.ส.ด้วย เพราะว่าเรายึดโยงกับประชาชนเป็นหลัก และส.ส.ผู้แทนพรรคก็เป็นตัวแทนของประชาชน เพราะฉะนั้นถึงเวลาโหวตภายในก็ต้องยอมรับ

เศรษฐา ทวีสิน  ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย

"วราวิทย์" เป็นการแสดงความพร้อมของตัวเองเท่านั้นไม่ได้มัดผูกรวมกับความเป็นพรรคว่าจะเลือกใคร

"เศรษฐา" ไม่มีสิทธิ์ด้วยที่ไปผูกมัดเขา

"วราวิทย์" หรือการลาออกทุกอย่างจากแสนสิริ การโอนหุ้นให้ลูกสาว ในขณะหลายคนเปรียบเทียบกับ"คุณอุ๊งอิ๊งค์" อาจจะมีหุ้นในบริษัททางธุรกิจของเขา ก็เป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่อาจชัดเจนว่า"คุณเศรษฐา" คือตัวจริงมากกว่า

"เศรษฐา" แต่ละคนก็อาจมีขีดจำกัดต่างกันไป ในส่วนตัวผมถือว่าผมมาถึงจุดนี้แล้วการแสดงความพร้อมไม่ใช่แค่ทางวาจาอย่างเดียว ทางด้านกฎหมายหลายๆเรื่องเดี๋ยวจะหาว่าเป็นเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อน ผมเองก็ต้องแสดงเจตจำนงที่บริสุทธิ์ด้วยเหมือนกัน แล้วลูกๆก็บรรลุนิติภาวะไปหลายปีแล้ว การโอนก็โอนอย่างถูกต้องตามกฎหมายก็ต้องเสียภาษีในการให้อีก 5% อีกนะครับ

"วราวิทย์" ไม่คิดแผนสำรองไว้เลยหรือว่า ก้าวเข้ามาแล้วอาจไปไม่ถึงเป้าที่เราตั้งเอาไว้ และในทางธุรกิจมันจะย้อนกลับมายังไง

"เศรษฐา" มีความเป็นไปได้ทั้งนั้นหล่ะครับ แสนสิริเองเขาก็มีทีมงานบริหารที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว ส่วนเรื่องของอนาคตอีก 2-3 เดือนข้างหน้าเป็นเรื่องของอนาคต ผมถือว่าผมได้ก้าวออกมาจากแสนสิริแล้ว ผมได้ทิ้งไว้ข้างหลัง มีการเทรนด์บุคคลากรที่เหมาะสมขึ้นมาแล้ว ถ้าผ่านสนามนี้เดี่ยวค่อยว่ากัน ผมเป็นคนมองโลกเป็นขั้นเป็นตอน อย่าไปข้ามสเต็ปดีกว่า วันนี้หน้าที่เรามีอะไรเราทำตรงนั้นให้ดีที่สุด

"วราวิทย์" คุณเศรษฐาช่วยอธิบายอีกครั้งชัดๆทำไมถึงประกาศว่า ถ้าเข้ามาแล้วจะรับเฉพาะตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

"เศรษฐา" ตรงนั้น ถูกตีความไปต่างๆนาๆ วันที่ก้าวเข้ามาจากวงการธุรกิจมาสู่การเมืองผมเป็นคนที่ชัดเจนในหลักการถ้าเกิดว่าตำแหน่งที่เราคิดว่าเราเหมาะสม สามารถนำความเปลี่ยนแปลงมาได้อย่างมีนัย ก็คือคำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็อย่างที่ประกาศไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมา แต่ว่าส่วนทางพรรคจะให้ไปทำอย่างอื่นหรือป่าว ผมขอให้เป็นภายหลังวันที่ 14 พฤษภาคม ดีกว่าแล้วเรามาคุยกันใหม่ ยังไงผมก็ยังเป็นประธานที่ปรึกษาของ"คุณแพรทองธาร"อยู่ดี แล้วเราก็ช่วยกันฟอร์มนโยบาย อาจจะช่วยอยู่ข้างหลังอะไรก็แล้วแต่พรรคจะมอบหมายให้นะครับ

"วราวิทย์" 4 ปีถ้าสมมติว่าได้เป็นภาพของประเทศไทยฝันเอาไว้ว่ามันจะเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดมันคืออะไรครับ

"เศรษฐา"  8 - 9 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยไม่มีที่ยืนบนเวทีโลก เราไม่ได้ออกไปประสัมพันธ์ข้อดีของประเทศ เราไม่ได้ออกไปต่อรองทางด้านการค้าขาย เราไม่ได้เปิดตลาดใหม่เราไม่ได้เป็นประเทศที่มีความภาคภูมิใจที่ออกไป วันหนึ่งไม่แน่ใจว่า 4 ปีพอหรือป่าวแต่อย่างน้อยจุดเริ่มต้นที่เรากลับไปเป็นเสือตัวที่ 5 หรืออาจจะเป็นตัวที่ 6 ในเอเชียน่าจะมีความเป็นไปได้นั้นคือความฝัน

"วราวิทย์" เราไม่ต้องประเทศกำลังพัฒนา 30-40 ปี

"เศรษฐา" หวังว่าไม่ วันนี้ยังไม่เริ่มนับหนึ่งเลยตราบใดที่เรายังไม่มีการพูดคุยอย่างเปิดเผย ตราบใดที่เรายังไล่คนที่เห็นต่างออกไปอยู่นอกประเทศอย่างไม่มีเยื้อใย ผมว่าอันนี้ประเทศเรามีปัญหาถ้าเราได้ผู้นำอย่างนั้นมามีปัญหาอย่างมาก

"วราวิทย์" สุดท้ายคือจะเป็นนายกรัฐมนตรีแบบไหน

"เศรษฐา" จะเป็นนายกรัฐมนตรีของประชาชนคนไทยทุกคนครับ ผมเชื่อว่าการฟังความคิดเห็นก็เป็นการรับข้อมูล รับข้อมูลเกิดปัญญา พอเกิดปัญญาก็เกิดทางออก ถ้าคุณไม่รับฟังความคิดเห็นเลยมันจะเกิดข้อมูลได้ยังไง ผมว่าการรับฟังเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้

เศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย

"วราวิทย์" คนที่เห็นต่างจะมองเป็นศัตรูการเมืองมั้ย

"เศรษฐา" ผมไม่มองอยู่แล้ว ศัตรูของผมคือความยากจน ความไม่เสมอภาค ความไม่เท่าเทียม ของพี่น้องประชาชน บางครั้งการนำเสนออะไร ต้องเอาความล้มเหลวของนโยบายของบางพรรคบางรัฐบาลมาพูด แต่ยืนยันว่าไม่ได้เป็นเรื่องส่วนตัว เพราะเวลาลำดับเรื่องนโยบายไหนสำเร็จไม่สำเร็จ ก็ต้องหยิบยกประวัติศาสตร์มาพูดคุยก่อน เราถึงเสนอทางออกในอนาคตได้นะครับ

ชมคลิป >>>

เจาะใจ "เศรษฐา ทวีสิน" จากบิ๊กซีอีโอแสนสิริสู่สนาม"เลือกตั้ง 66"

logoline