svasdssvasds
เนชั่นทีวี

วีดิโอ

ผ่าวิสัยทัศน์ "เศรษฐา ทวีสิน" ว่าที่นายกรัฐมนตรี" จากพรรคเพื่อไทยตัวจริง?

"รายการคมชัดลึก" โดย "วราวิทย์ ฉิมมณี" ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ระดับเอ็กคลูซีฟ "เศรษฐา ทวีสิน" แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย หลากหลายมุมมองที่ยังไม่เคยเปิดเผย (ชมคลิป)

"ผมเป็นคนที่ชัดเจนในหลักการ ถ้าเกิดว่าตำแหน่งที่เราคิดว่าเหมาะสม สามารถนำความเปลี่ยนแปลงมาได้อย่างมีนัย ก็คือคำแหน่งนายกรัฐมนตรี..."

"เศรษฐา  ทวีสิน" ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย 

หนึ่งในสามบัญชีรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทย เป็นที่ปรากฎไปแล้วว่า คือ "เศรษฐา  ทวีสิน" ซีอีโอธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จากเครือแสนสิริ  วันนี้เขาได้ลาออกจากตำแหน่งในบริษัทเอกชน เพื่อเดินหน้าเต็มตัวบนสนามการเมือง"เลือกตั้ง66 "

วิสัยทัศน์ "เศรษฐา" ว่าที่นายกฯ ตัวจริง?

"วราวิทย์" จากการที่เป็นนักธุรกิจแต่งตัวใส่สูททำงานอยู่ในห้องแอร์ พอไปเจอชีวิตจริงๆ"คุณเศรษฐา"เรียนรู้อะไรบ้าง

"เศรษฐา" ส่วนมากของพี่น้องประชาชนที่ได้ยินและรับฟังมา มันเป็นการสื่อสารทางเดียว ผมว่ามันไม่ได้เป็นกระจกสะท้อนความเป็นจริงเท่าไหร่ เพราะได้อ่านอย่างเดียวได้เห็นมุมมองเดียวที่คนที่นำเสนออยากจะพูด แต่การที่ลงพื้นที่ไปมันมีการตอบโต้กันมีการแย้งกัน และแววตาของพี่น้องบ่งบอกความลึกถึงปัญหาเหมือนกัน

ผ่าวิสัยทัศน์ "เศรษฐา ทวีสิน" ว่าที่นายกรัฐมนตรี" จากพรรคเพื่อไทยตัวจริง?

"วราวิทย์" พอได้รับฟังสิ่งที่เขาสะท้อนกลับมาแล้ว เหมือนหรือต่างยากกว่าที่เราคิดไว้มั้ย ที่อาจจะใช้ประสบการณ์จากการบริหารธุรกิจมาใช้กับการบริหารประเทศ

"เศรษฐา" ไม่ต่างกัน ตรงที่มันมีปัญหาซ้อนปัญหาความลึกของปัญหามันก็ต่างกันไปแต่ว่า ทั้งนี้เวลาไปลงพื้นที่มาพอได้มีการตอบโต้กันก็ต้องยอมรับว่าบางปัญหาไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด อย่างที่เราได้เห็นภาพ แต่ผมเชื่อประสบการณ์ที่ผมสะสมมาและทีมงานพรรคเพื่อไทยก็จะสามารถหาคำตอบได้เกือบทุกอัน เรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องของการบริหารความคาดหวังนิดนึง ว่าปัญหาบางปัญหาไม่ได้อาจะแก้ไขได้ในเทอมเดียว 4 ปีมันรากลึกมาก

"วราวิทย์" ย้อนไปเมื่อวันที่ 5 เมษายน ที่มีการเปิดตัวนายกรัฐมนตรีครบทั้งสามคน หลายคนจับสังเกตถ้อยแถลงบนเวทีวันนั้น ของ"คุณเศรษฐา"ดูจะมีคำพูดที่ระบุเจาะจงชัดเจน เช่น ผมพร้อมเป็นผู้นำคนถัดไปของประเทศ อันนี้เป็นการส่งสัญญาณแล้วหรือป่าวว่า"คุณเศรษฐา ทวีสิน" คือนายกฯตัวจริงเบอร์หนึ่งของพรรคเพื่อไทย

"เศรษฐา" คงไม่ใช่หรอกครับ ณ เวลานั้นผมเป็นคนแถลงต้องแสดงวิสัยทัศน์ว่าตัวผมเองพร้อมที่จะรับตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชน ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหารพรรค ขึ้นอยู่กับส.ส.ด้วย เพราะว่าเรายึดโยงกับประชาชนเป็นหลัก และส.ส.ผู้แทนพรรคก็เป็นตัวแทนของประชาชน เพราะฉะนั้นถึงเวลาโหวตภายในก็ต้องยอมรับ

เศรษฐา ทวีสิน  ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย

"วราวิทย์" เป็นการแสดงความพร้อมของตัวเองเท่านั้นไม่ได้มัดผูกรวมกับความเป็นพรรคว่าจะเลือกใคร

"เศรษฐา" ไม่มีสิทธิ์ด้วยที่ไปผูกมัดเขา

"วราวิทย์" หรือการลาออกทุกอย่างจากแสนสิริ การโอนหุ้นให้ลูกสาว ในขณะหลายคนเปรียบเทียบกับ"คุณอุ๊งอิ๊งค์" อาจจะมีหุ้นในบริษัททางธุรกิจของเขา ก็เป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่อาจชัดเจนว่า"คุณเศรษฐา" คือตัวจริงมากกว่า

"เศรษฐา" แต่ละคนก็อาจมีขีดจำกัดต่างกันไป ในส่วนตัวผมถือว่าผมมาถึงจุดนี้แล้วการแสดงความพร้อมไม่ใช่แค่ทางวาจาอย่างเดียว ทางด้านกฎหมายหลายๆเรื่องเดี๋ยวจะหาว่าเป็นเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อน ผมเองก็ต้องแสดงเจตจำนงที่บริสุทธิ์ด้วยเหมือนกัน แล้วลูกๆก็บรรลุนิติภาวะไปหลายปีแล้ว การโอนก็โอนอย่างถูกต้องตามกฎหมายก็ต้องเสียภาษีในการให้อีก 5% อีกนะครับ

"วราวิทย์" ไม่คิดแผนสำรองไว้เลยหรือว่า ก้าวเข้ามาแล้วอาจไปไม่ถึงเป้าที่เราตั้งเอาไว้ และในทางธุรกิจมันจะย้อนกลับมายังไง

"เศรษฐา" มีความเป็นไปได้ทั้งนั้นหล่ะครับ แสนสิริเองเขาก็มีทีมงานบริหารที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว ส่วนเรื่องของอนาคตอีก 2-3 เดือนข้างหน้าเป็นเรื่องของอนาคต ผมถือว่าผมได้ก้าวออกมาจากแสนสิริแล้ว ผมได้ทิ้งไว้ข้างหลัง มีการเทรนด์บุคคลากรที่เหมาะสมขึ้นมาแล้ว ถ้าผ่านสนามนี้เดี่ยวค่อยว่ากัน ผมเป็นคนมองโลกเป็นขั้นเป็นตอน อย่าไปข้ามสเต็ปดีกว่า วันนี้หน้าที่เรามีอะไรเราทำตรงนั้นให้ดีที่สุด

"วราวิทย์" คุณเศรษฐาช่วยอธิบายอีกครั้งชัดๆทำไมถึงประกาศว่า ถ้าเข้ามาแล้วจะรับเฉพาะตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

"เศรษฐา" ตรงนั้น ถูกตีความไปต่างๆนาๆ วันที่ก้าวเข้ามาจากวงการธุรกิจมาสู่การเมืองผมเป็นคนที่ชัดเจนในหลักการถ้าเกิดว่าตำแหน่งที่เราคิดว่าเราเหมาะสม สามารถนำความเปลี่ยนแปลงมาได้อย่างมีนัย ก็คือคำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็อย่างที่ประกาศไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมา แต่ว่าส่วนทางพรรคจะให้ไปทำอย่างอื่นหรือป่าว ผมขอให้เป็นภายหลังวันที่ 14 พฤษภาคม ดีกว่าแล้วเรามาคุยกันใหม่ ยังไงผมก็ยังเป็นประธานที่ปรึกษาของ"คุณแพรทองธาร"อยู่ดี แล้วเราก็ช่วยกันฟอร์มนโยบาย อาจจะช่วยอยู่ข้างหลังอะไรก็แล้วแต่พรรคจะมอบหมายให้นะครับ

"วราวิทย์" 4 ปีถ้าสมมติว่าได้เป็นภาพของประเทศไทยฝันเอาไว้ว่ามันจะเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดมันคืออะไรครับ

"เศรษฐา"  8 - 9 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยไม่มีที่ยืนบนเวทีโลก เราไม่ได้ออกไปประสัมพันธ์ข้อดีของประเทศ เราไม่ได้ออกไปต่อรองทางด้านการค้าขาย เราไม่ได้เปิดตลาดใหม่เราไม่ได้เป็นประเทศที่มีความภาคภูมิใจที่ออกไป วันหนึ่งไม่แน่ใจว่า 4 ปีพอหรือป่าวแต่อย่างน้อยจุดเริ่มต้นที่เรากลับไปเป็นเสือตัวที่ 5 หรืออาจจะเป็นตัวที่ 6 ในเอเชียน่าจะมีความเป็นไปได้นั้นคือความฝัน

"วราวิทย์" เราไม่ต้องประเทศกำลังพัฒนา 30-40 ปี

"เศรษฐา" หวังว่าไม่ วันนี้ยังไม่เริ่มนับหนึ่งเลยตราบใดที่เรายังไม่มีการพูดคุยอย่างเปิดเผย ตราบใดที่เรายังไล่คนที่เห็นต่างออกไปอยู่นอกประเทศอย่างไม่มีเยื้อใย ผมว่าอันนี้ประเทศเรามีปัญหาถ้าเราได้ผู้นำอย่างนั้นมามีปัญหาอย่างมาก

"วราวิทย์" สุดท้ายคือจะเป็นนายกรัฐมนตรีแบบไหน

"เศรษฐา" จะเป็นนายกรัฐมนตรีของประชาชนคนไทยทุกคนครับ ผมเชื่อว่าการฟังความคิดเห็นก็เป็นการรับข้อมูล รับข้อมูลเกิดปัญญา พอเกิดปัญญาก็เกิดทางออก ถ้าคุณไม่รับฟังความคิดเห็นเลยมันจะเกิดข้อมูลได้ยังไง ผมว่าการรับฟังเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้

เศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย

"วราวิทย์" คนที่เห็นต่างจะมองเป็นศัตรูการเมืองมั้ย

"เศรษฐา" ผมไม่มองอยู่แล้ว ศัตรูของผมคือความยากจน ความไม่เสมอภาค ความไม่เท่าเทียม ของพี่น้องประชาชน บางครั้งการนำเสนออะไร ต้องเอาความล้มเหลวของนโยบายของบางพรรคบางรัฐบาลมาพูด แต่ยืนยันว่าไม่ได้เป็นเรื่องส่วนตัว เพราะเวลาลำดับเรื่องนโยบายไหนสำเร็จไม่สำเร็จ ก็ต้องหยิบยกประวัติศาสตร์มาพูดคุยก่อน เราถึงเสนอทางออกในอนาคตได้นะครับ

ชมคลิป >>>

เจาะใจ "เศรษฐา ทวีสิน" จากบิ๊กซีอีโอแสนสิริสู่สนาม"เลือกตั้ง 66"