svasdssvasds
เนชั่นทีวี

กีฬา

"เสี่ยหมี"ยันเอง! ประกาศขาย "เชลซี" บริจาครายได้ให้เหยื่อสงครามยูเครน

03 มีนาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

โรมัน อบราโมวิช เจ้าของทีม เชลซี ประกาศยืนยันด้วยตนเองว่าได้ตัดสินใจที่จะขายกิจการสโมสร พร้อมเผยว่าจะบริจาครายได้สุทธิที่ได้จากการขายทีมครั้งนี้ให้กับเหยื่อสงครามในยูเครน

จากกรณีที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกเข้ายูเครน และกลายเป็นกระแสต่อต้านไปทั่วโลก ซึ่งทำให้ โรมัน อบราโมวิช เจ้าของทีม เชลซี ที่มีข้อมูลว่าให้การสนับสนุน วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย มาตลอด กำลังเจอกับแรงกดดันอย่างหนัก จนก่อนหน้านี้ต้องออกมาประกาศวางมือจากการบริหารสโมสรลง และให้ผู้บริหารของมูลนิธิเชลซีเข้ามาจัดการแทน จากนั้นก็มีกระแสข่าวว่าเจ้าตัวกำลังพิจารณาขายสโมสรที่ตัวเองเข้ามาเทคโอเวอร์ตั้งแต่ปี 2003 โดยมีมหาเศรษฐี 3 รายกำลังให้ความสนใจ


ล่าสุด อบราโมวิช ได้ออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ของสโมสร โดยยืนยันกระแสข่าวขายทีมว่าเป็นความจริง


"ผมอยากจะชี้แจงถึงเรื่องข่าวลือตามหน้าสื่อในตลอดช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เกี่ยวกับเรื่องการเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลเชลซี ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้า ผมได้ทำการตัดสินใจทุกอย่างโดยคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของสโมสรตลอดมา จากสถานการณ์ปัจจุบัน ผมได้ตัดสินใจที่จะขายสโมสร เพราะผมเชื่อว่านี่คือสิ่งที่เป็นประโยชน์สูงสุดกับทั้งสโมสร แฟนบอล พนักงานทุก ๆ คน และยังรวมไปถึงผู้สนับสนุน ตลอดจนหุ้นส่วนของสโมสร" อบราโมวิช กล่าว

 

"การขายสโมสรจะยังไม่เกิดขึ้นแบบเร่งด่วน แต่จะเป็นไปตามกระบวนการ ผมจะไม่ขอเงินที่สโมสรได้กู้ยืมคืนมาแต่อย่างใด สำหรับผมแล้ว สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นเรื่องของธุรกิจ หรือเงินทอง แต่มันเกี่ยวกับแพสชั่นของผมที่มีต่อเกมการแข่งขันและสโมสรอย่างแท้จริง" 

"นอกจากนี้แล้ว ผมได้สั่งให้ทีมงานจัดตั้งมูลนิธิการกุศลเพื่อบริจาครายได้สุทธิทั้งหมดที่มาจากการขาย มูลนิธิจะเป็นประโยชน์อย่างสำคัญต่อผู้ที่ตกเป็นเหยื่อสงครามในยูเครน และยังรวมถึงการจัดหาเงินทุนสำหรับความประสงค์เร่งด่วนเพื่อช่วยสนับสนุนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม ตลอดจนการสนับสนุนและฟื้นฟูในระยะยาว"


"โปรดทราบว่านี่เป็นการตัดสินใจที่ยากมากจนแทบไม่อยากจะเชื่อ และผมเองรู้สึกเจ็บปวดในการต้องแยกทางกับสโมสรด้วยแนวทางนี้ อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่าสิ่งนี้เป็นผลประโยชน์สูงสุดของสโมสร"


"ผมหวังว่าผมจะได้กลับมาเยือนสแตมฟอร์ด บริดจ์อีกสักครั้ง เพื่อที่จะได้กล่าวลาทุก ๆ คนด้วยตัวของผมเอง นี่ถือเป็นเรื่องที่วิเศษมาก ๆ ครั้งหนึ่งในชีวิตของผม กับการได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสโมสรฟุตบอลเชลซี และผมภูมิใจในความสำเร็จร่วมกันของทีมเรา สโมสรฟุตบอลเชลซี และแฟนบอลทุก ๆ คนจะอยู่ในใจผมตลอดไป"

logoline