svasdssvasds
เนชั่นทีวี

กีฬา

"เอ็มม่า ราดูคานู" ดาวดวงใหม่ของวงการเทนนิสโลก

12 กันยายน 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

รู้จักกับ เอ็มม่า ราดูคานู นักเทนนิสดาวรุ่งวัยแค่ 18 ปี ที่เพิ่งคว้าแชมป์แกรนด์สแลม ยูเอส โอเพ่น มาหมาดๆ และทำให้เธอกลายเป็นขวัญใจคนใหม่ของแฟนเทนนิสทั่วโลก

          ในวงการเทนนิสของสหราชอาณาจักรช่วง 3-4 ทศวรรษที่ผ่านมา มีเพียงนักหวดลูกสักหลาดฝ่ายชายเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จและอยู่ในระดับแนวหน้าของวงการ ไล่มาตั้งแต่ ทิม เฮนแมน หรือ แอนดี้ มาร์รี่ย์ ตรงข้ามกับฝ่ายหญิงที่แทบไม่มีคนที่ก้าวขึ้นมาเป็นอยู่หัวแถว หรือคว้าแชมป์ในรายการใหญ่ๆระดับแกรนด์สแลมได้

 

          แต่ ณ เวลานี้ พวกเขาค้นพบดาวดวงใหม่แล้ว นั่นคือ "เอ็มม่า ราดูคานู" นักเทนนิสดาวรุ่งวัยเพียง 18 ปี ที่ผงาดคว้าแชมป์แกรนด์สแลม ยูเอส โอเพ่น มาหมาด และวันนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับเธอกัน

"ครอบครัว" ปลูกฝังความเป็นนักกีฬา
          เอ็มม่า ราดูคานู เกิดเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2002 ที่โตรอนโต้ ประเทศแคนาดา เป็นลูกสาวคนเดียวของคุณพ่อชาวโรมาเนียและคุณแม่เชื้อสายจีน ซึ่งทั้งคู่ทำงานในแวดวงการเงิน ก่อนที่ครอบครัวของเธอจะย้ายมาตั้งรกรากอยู่ที่ประเทศอังกฤษตั้งแต่เธออายุได้แค่ 2 ขวบ 

 

          ชีวิตของเด็กน้อย "เอ็มม่า" ถูกคุณพ่อปลูกฝังความรักกีฬามาตั้งแต่ยังเล็ก แม้ว่าจะเริ่มด้วยการหัดเต้นบัลเล่ต์ตามประสาเด็กผู้หญิงทั่วไป แต่หลังจากนั้นคุณพ่อก็ส่งเธอไปหัดเล่นกีฬาอยู่หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ขี่ม้า ว่ายน้ำ เต้นแท็ป บาสเกตบอล เล่นสกี กอล์ฟ รวมไปถึงกีฬาเอ็กซ์ตรีมอย่าง รถโกคาร์ท หรือแม้กระทั่งแข่งโมโตครอส ควบคู่ไปกับการฝึกเทนนิสที่เธอหัดเล่นมาตั้งแต่อายุ 5 ขวบ

 

          โดยการเล่นเทนนิส สาวน้อยเอ็มม่า ประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์ระดับเยาวชนของ ITF ตั้งแต่อายุแค่ 13 ปี 

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

A post shared by Emma Raducanu (@radayyyy)

 

เริ่มต้นอาชีพท่ามกลางอุปสรรค
เอ็มม่า ราดูคานู เริ่มเทิร์นโปรตั้งแต่ปี 2018 แต่เธอยังไม่ได้ลงแข่งขันในรายการของ WTA Tour เนื่องจากต้องแบ่งเวลาส่วนหนึ่งไปกับการเรียน (เพิ่งสอบ A-Level ของอังกฤษด้วยการได้เกรด A+ ในวิชาคณิตศาสตร์ และ A ในวิชาเศรษฐศาสตร์ เมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา) โดยลงเล่นในระดับ ITF เซอร์กิต เป็นหลัก ซึ่งเธอก็คว้าแชมป์มาได้ถึง 3 รายการ และได้รองแชมป์อีก 2 ครั้ง

 

อย่างไรก็ตาม วิกฤต "โควิด-19" ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก ได้ปิดกั้นโอกาสของเธอในการลงแข่งขันระดับสูงไปด้วย โดย เอ็มม่า ทำได้เพียงแค่ฝึกซ้อมด้วยตัวเองที่บ้านเท่านั้น จนกระทั่งปีนี้ ที่การแข่งขัน WTA Tour สามารถกลับมาแข่งกันได้อีกครั้ง เอ็มม่า ราดูคานู ก็เตรียมตัวอย่างจริงจัง ก่อนคว้าสิทธิ์ไวล์การ์ดเข้าสู่รอบเมนดรอว์ได้เป็นครั้งแรกในการแข่งขัน "ไวกิ้ง โอเพ่น" ที่เมืองน็อตติ้งแฮม เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมานี้เอง 

ได้เวลาฉายแสง
          จากนั้นในศึก "วิมเบิลดัน" แกรนด์สแลมที่เก่าแก่ที่สุดของโลก โจอันนาห์ คอนต้า นักเทนนิสรุ่นพี่ชาวสหราชอาณาจักร ต้องถอนตัวเนื่องจากติดโควิด ฝ่ายจัดการแข่งขันจึงมอบสิทธิ์ไวล์การ์ดให้เธอลงแข่งแทน นับเป็นการแข่งรอบเมนดรอว์รายการที่ 2 ในชีวิตเท่านั้น แต่ เอ็มม่า ราดูคานู กลับทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด เมื่อผ่านเข้าไปถึงรอบ 16 คนสุดท้ายด้วยสถิติอายุน้อยที่สุดของชาวสหราชอาณาจักร ด้วยวัยเพียง 18 ปี 239 วันเท่านั้น อย่างไรก็ตาม "เอ็มม่า" ต้องหยุดเส้นทางไว้แค่รอบนี้ เนื่องจากปัญหาอากาศร้อนจัดจนเธอหายใจไม่ออก ต้องขอยอมแพ้ต่อ อัยจ์ล่า ทอมล์ยาโนวิช จากออสเตรเลีย ไปในที่สุด แต่ด้วยผลงานระดับนี้ก็ทำให้เธอเริ่มกลายเป็นที่จับตามองของแฟนลูกสักหลาดร่วมชาติบ้างแล้ว

          จากนั้น เอ็มม่า ราดูคานู ก็เริ่มลงแข่งใน WTA Tour อย่างจริงจัง โดยลงแข่งในศึก มูบาดาล่า ซิลิคอน วัลลีย์ คลาสสิก ที่ซานโฮเซ่ แต่ก็ตกรอบ 32 คนสุดท้าย ก่อนจะมาแข่งในศึก WTA ชิคาโก้ และก็ผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้ด้วย โชคร้ายที่พ่ายต่อ คลาร่า เทาสัน จากเดนมาร์ก ชวดแชมป์ไปอย่างน่าเสียดาย

 

          มาถึงการแข่งขัน ยูเอส โอเพ่น ด้วยความที่เธอเป็นเพียงมืออันดับ 150 ของโลก ทำให้ต้องไปเริ่มต้นตั้งแต่รอบคัดเลือก แต่ "เอ็มม่า" ก็พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นของจริง ด้วยการกวาดชัยทั้ง 3 แมตช์ชนิดไม่เสียเซต ผ่านเข้าสู่รอบเมนดรอว์ได้อย่างสวยงาม

 

          จากนั้น เอ็มม่า ราดูคานู ก็ยังฟอร์มแรงไม่หยุด ด้วยการเก็บชัยเหนือ สเตฟานี่ โวเกล จากสวิส, จาง ฉ่วย จากจีน, ซารา ซอร์ริเบส ตอร์โม่ จาก สเปน, เชลบี โรเจอร์ส จากสหรัฐ, เบลินด้า เบนซิช เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกจากสวิส และ มาเรีย ซัคคารี่ จากกรีซ ชนิดไม่เสียเซตตลอดเส้นทาง พร้อมผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ ซึ่งผลงานของ "เอ็มม่า" ก็ยากที่ใครจะต้านทาน สุดท้าย เธอจึงเอาชนะ เลย์ลาห์ เฟอร์นานเดซ คว้าแชมป์ ยูเอส โฮเพ่น ปีนี้มาครองได้สำเร็จ ซึ่งจากผลงานของเธอก็ทำให้จะได้เลื่อนจากอันดับ 150 ขึ้นมาเป็นมือ 23 ของโลก ในการจัดอันดับอย่างเป็นทางการสัปดาห์นี้อีกด้วย

 

          น่าติดตามอย่างยิ่งว่าเส้นทางของ เอ็มม่า ราดูคานู นับจากนี้เป็นเป็นเช่นไร เพราะเธอจะไม่ได้ลงเล่นในฐานะนักหวดดาวรุ่งอีกแล้ว แต่จะเป็นนักเทนนิส "มือ 1 ของสหราชอาณาจักร" ซึ่งแน่นอนว่าความกดดันจะต้องถาโถมเข้ามาหาสาวน้อยวัย 18 ปีผู้นี้อย่างไม่ต้องสงสัย อยู่ที่ว่าเธอจะรับมือกับชีวิตหลังจากนี้ได้ดีเพียงใดเท่านั้น

--------------------

ที่มา:

logoline