"เอเชียแค็บ" เปิดให้บริการที่สนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง ตอบรับความต้องการของผู้โดยสารท่องเที่ยวในประเทศไทย
การท่องเที่ยวในประเทศไทยนั้นได้ครึกครื้นขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้การเดินทางของผู้คนในประเทศและต่างประเทศรวมถึงนักท่องเที่ยวได้เพิ่มมากขึ้น ทางเอเชียแค็บได้มีการเปิดให้บริการที่สนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง เพื่อตอบรับความต้องการของผู้โดยสารที่มีมากขึ้นทั้งผู้โดยสารในประเทศและต่างประเทศ
จากการสำรวจพบว่าปริมาณรถแท็กซี่ในกรุงเทพมหานครฯรถแท็กซี่ที่จดทะเบียนในปีพุทธศักราช 2556 ถึง พุทธศักราช 2564 นั้นมีปริมาณอยู่ที่ 90,218 คัน ซึงถ้าเทียบกับปัจจุบันรถแท็กซี่ที่จดทะเบียนมีอยู่ 79,543 คัน ซึ่งลดน้อยลงประมาณ 10,675 คันหรือประมาณ 13 เปอร์เซ็น และในช่วงปีพุทธศักราช 2563 ถึง พุทธศักราช 2564 นั้นมีการจดทะเบียนรถแท็กซี่ใหม่นั้นน้อยลงถึงประมาณ 2,587 คันหรือประมาณ 72 เปอร์เซ็น สืบเนื่องจากสถานการณ์การชลอตัวของเศรษฐกิจโลกแล้วยังเจอผลกระทบของสถานการณ์ Covid-19 และในช่วงปีพุทธศักราช 2563 ถึง พุทธศักราช 2564 มีรถแท็กซี่ที่อายุครบ 9 ปี กว่าประมาณ 30,000 คัน
นอกจากนั้นทางเอเชียแค็บ จะมีการเข้าไปเจรจากับทางกรมขนส่งทางบกเพื่อขยายอายุของรถแท็กซี่จาก 9 ปีเป็น 15 ปี โดยเราสามารถดูได้จากที่ต่างประเทศนั้นซึ่งมีหลากหลายประเทศที่สามารถให้รถเครื่องยนต์สันดาปภายใน (Internal Combustion Engine: ICE) หรือ รถยนต์ที่ปล่อยไอเสีย Euro 6 ใช้ได้ถึง 15 ปี ยกตัวอย่างเช่นประเทศ อังกฤษ ออสเตรเลีย เป็นต้น แต่ในประเทศไทยนั้นรถยนต์ที่ปล่อยไอเสีย Euro 4 นั้นสามารถใช้ได้ถึงแค่ 9 ปี แต่ในอนาคตประเทศไทยจะมีการนำรถยนต์ที่ปล่อยไอเสีย Euro 6 มาใช้ซึ่งสอดคล้องกันกับมาตราการที่เอเชียแค็บจะเข้าไปคุยเพื่อแก้ร่างกฎหมายการใช้รถยนต์จาก 9 ปีเป็น 15 ปี
จากข้างต้นพบว่าเอเชียแค็บจะเป็นกระบอกเสียงในการร่างแก้กฎหมายให้ขยายอายุการใช้งานรถแท็กซี่ให้มากขึ้น ตัวอย่างเช่น รถแท็กซี่ที่จดทะเบียนในช่วงสถานการณ์ Covid-19 ควรขยายอายุแท็กซี่ให้มากไปอีก 3 ปี เช่น 9 ปีเพิ่มไปอีก 3 ปีเป็น 12ปี เพื่อให้สอดคล้องกับตัวอุปสงค์ที่หายไปในช่วงที่ผ่านมา ตัวอย่างดังต่อไปนี้
- จดทะเบียนพุทธศักราช 2562 เพิ่มให้อีก 3 ปี
- จดทะเบียนพุทธศักราช 2563 เพิ่มให้อีก 2 ปี
- จดทะเบียนพุทธศักราช 2564 เพิ่มให้อีก 1 ปี
- จดทะเบียนพุทธศักราช 2565 เพิ่มให้อีก 0 ปี
