Buds FE หูฟังเสียงคมชัด ที่ผู้ใช้งานต้องมีติดตัว

 

การมีหูฟังดี ๆ สักรุ่นที่ให้เสียงคมชัดในการฟังเพลง ดูหนัง รับชมวิดีโอ เรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์เสริมที่หลายคนต้องการ ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ Samsung ผู้นำด้านแวดวงสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ได้มีการขนทัพสินค้าใหม่อย่าง Buds FE หูฟังในซีรีส์ Galaxy FE ที่มาพร้อมสเปคที่น่าสนใจ และราคาสบายกระเป๋า ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย จนอยากจะจับของเป็นเจ้าของกันเลยทีเดียว ว่าแต่จะมีคุณสมบัติอะไรที่น่าสนใจบ้าง มาดูไปพร้อม ๆ กันเลย

 

Buds FE ภาพรวมสเปคเป็นอย่างไร

 

Samsung Buds FE ภาพรวมสเปคมีดังต่อไปนี้

 

• หูฟังมีขนาด 19.2 x 17.1 x 22.2 mm น้ำหนักอยู่ที่ 5.6 g
• เคสชาร์จขนาด 50.0 x 50.0 x 27.7 mm น้ำหนักอยู่ที่  40 g มาในพอร์ตชาร์จแบบ USB-C
• Galaxy Buds FE มี 2 สี คือ สี Mystic White และ Graphite
• การันตีมาตรฐานความทนทาน IPX2
• ฟังเพลงได้นาน 8.5 ชั่วโมง และสูงสุดถึง 30 ชั่วโมงเมื่อรวมเคสชาร์จ
• AI-Powered Clear Call ฟีเจอร์เด่นที่ช่วยให้การสนทนาสื่อสารทั้งทางโทรศัพท์ ทางวิดีโอ หรือจะสนทนาทางออนไลน์ ประชุม ชัดยิ่งขึ้น
• ระบบตัดเสียงรบกวน ANC ที่จะช่วยให้เพลิดเพลิน ลดการรบกวนจากเสียงรอบข้าง
• เชื่อมต่อ Bluetooth v5.2
• มีฟีเจอร์ Auto Switch ในการสลับเปลี่ยนอุปกรณ์ในการเชื่อมต่อได้อย่างอัตโนมัติ
• Buds FE รองรับการระบุตำแหน่งหูฟัง Find My Earbuds สามารถตรวจสอบตำแหน่งอุปกรณ์ได้ง่าย ช่วยป้องกันการสูญหาย

 

 

Buds FE สี และดีไซน์ ที่เหนือระดับ

 

สำหรับ Buds FE เป็นหูฟังที่มีสีให้เลือกซื้อเป็นเจ้าของด้วยกันถึง 2 สี ดังต่อไปนี้

 

Buds FE สี Mystic White

ใครที่ชอบความมินิมอล น้อยแต่มาก และยังคงความเรียบหรูที่ดูน่าค้นหา ต้องถูกใจกับ Buds FE สี Mystic White เพราะสีนี้นอกจากจะดูสบายตาแล้ว ยังให้ความรู้สึกที่ดูไม่เยอะจนเกินไป ใครชอบโทนสีสะอาด สบายตา แนะนำ Buds FE สีนี้เลย

 

Buds FE สี Graphite

อีกหนึ่งสีของหูฟังรุ่นนี้ที่เรียบหรูไม่แพ้กับสีข้างต้น แถมยังดูแลรักษาง่าย ใครชอบโทนสีไม่เข้มจนเกินไป เพิ่มระดับรสนิยมดีไปอีกขั้น ต้องถูกใจกับ Buds FE สี Graphite อย่างแน่นอน

 

 

เทียบความต่าง ระหว่าง Samsung Galaxy Buds FE กับ Samsung Galaxy Galaxy Buds2 ต่างกันอย่างไร

 

 

Samsung Galaxy Buds FE กับ Samsung Galaxy Buds2  มีความแตกต่างที่เห็นชัดอย่างแรกเลยคือ เรื่องของราคา ซึ่ง Buds FE เปิดตัวในราคา 3,390 บาท ส่วน Buds2 อัปเดตราคาล่าสุดอยู่ที่ 3,990 บาท

 

นอกจากเรื่องราคาแล้ว ในด้านคุณสมบัติ และสเปคการใช้งานของทั้งคู่ก็ยังมีความแตกต่างกันอีกด้วย โดย Buds FE สามารถใช้งานได้นานกว่าถึง 8.5 ชั่วโมง ในขณะที่ Buds2 สามารถใช้งานทั่วไปได้เพียง 5 ชั่วโมง ส่วนเรื่องของดีไซน์ สี และการออกแบบ หากใครชอบหูฟังที่มีสีสันให้เลือกได้หลากหลาย คงต้องเทใจไปทาง Buds2 มากกว่า เพราะมีสีให้เลือกมากถึง 5 สี ได้แก่ Olive, Matte Black, Graphite, Lavender และ White ส่วน Buds FE มีให้เลือกเพียง 2 สีเท่านั้นคือ สี Mystic White และ Graphite

 

แม้ทั้งคู่จะมีจุดต่างกันบ้าง ทั้งราคา ระยะเวลาการใช้งาน สีสันภายนอก แต่จุดที่เหมือนกันอย่างระบบตัดเสียง ANC ทั้งคู่ก็จะเต็ม แถมยังใส่กระชับ สบายหูอีกด้วย เห็นแบบนี้แล้วอยู่ที่ผู้ใช้งานแล้วว่าจะเลือกรุ่นไหน

 

 

Samsung Galaxy Buds FE เหมาะกับใคร

 

สรุปแบบกระชับ Galaxy Buds FE เหมาะกับใครบ้าง

• ผู้ใช้งานที่ชื่นชอบการฟังเพลง ดูหนัง เล่นเกม ต้องการเสียงที่คมชัด
• ผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบการสนทนา โทรพูดคุย ประชุม
• ผู้ใช้งานที่ต้องการฟังก์ชันการตัดเสียงรบกวน
• เหมาะกับผู้ใช้งานที่ต้องการหูฟังไร้สายที่น้ำหนักเบา ขนาดกะทัดรัด พกพาง่าย
• ผู้ที่ต้องการหูฟังไร้สายที่ทน สามารถกันน้ำได้ในระดับหนึ่ง
• ผู้ที่ต้องการหูฟังใส่สำหรับการออกกำลังกาย ไม่หลุดง่ายขณะออกกำลังหรือวิ่ง

 

สรุป Buds FE หูฟังที่ทุกคนตามหา

 

Buds FE ถือเป็นสินค้าใหม่อีกหนึ่งรุ่น ที่ได้มีการเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งต้องขอสรุปสั้น ๆ เลยว่าเป็นหูฟังที่ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่ดีไซน์การออกแบบที่มีสีให้เลือกถึง 2 สี เอาใจผู้ใช้ที่ชื่นชอบสีเบสิค แต่ให้ความรู้สึกมินิมอล และเรียบหรูไปในเวลาเดียวกัน ที่สำคัญยังเป็นหูฟังที่มีรูปทรงรับกับใบหู ใส่สบาย ใส่ได้อย่างพอดี

 

ในส่วนของการใช้งานก็เหมาะกับผู้ที่ต้องการหูฟังที่เสียงคมชัด มาในราคาดี สบายกระเป๋า ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ชีวิตประจำวันที่ต้องการเสียงเพลง และความบันเทิง ช่วยป้องกันไม่ให้เสียงรอบข้างมารบกวน เห็นแบบนี้แล้วต้องรีบเป็นเจ้าของ Buds FE เพราะฟีเจอร์การใช้งานช่วยให้สะดวกสบายแบบนี้ เชื่อว่าต้องเป็นหูฟังไร้สายที่ใคร ๆ ก็ต้องการอย่างแน่นอน