
อุทยานฯ ได้ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานบุรีรัมย์ และ อำเภอคูเมือง เชิญชวนพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวร่วมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่พระพุทธศาสนาโลก “พระเขี้ยวแก้ว (จำลอง)” และ “หน่อต้นพระศรีมหาโพธิ์” อายุเก่าแก่กว่า 2,300 ปี ซึ่งอัญเชิญตรงจากประเทศศรีลังกา เพื่อความเป็นสิริมงคลสูงสุดแก่ชีวิตและครอบครัวในช่วงเทศกาลออกพรรษาและเดือนแห่งบุญกฐิน ตุลาคม 2568 นี้ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
นายประณัย สายชมภู กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพ ลา เพลิน บูติค รีสอร์ท จำกัด กล่าวว่า “เรามีความภาคภูมิใจที่ได้ร่วมเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 9 ปี ที่ได้อัญเชิญพระเขี้ยวแก้วองค์จำลอง จากประเทศศรีลังกา มาประดิษฐาน ณ เพ ลา เพลิน ถือเป็นนิมิตหมายอันเป็นมงคลยิ่งสำหรับชาวบุรีรัมย์ และพุทธศาสนิกชนชาวไทยทุกคน ที่ได้มีโอกาสเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเป็นสิริมงคล โดยความร่วมมือกับภาครัฐในครั้งนี้ เป็นความตั้งใจของเราที่จะเปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนได้เข้ามาทำบุญเสริมบารมี และเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจในช่วงเทศกาลสำคัญทางพุทธศาสนา รวมถึงเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงศรัทธาในพื้นที่อีสานใต้ให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยเปิดให้ประชาชนสักการะฟรีตลอดเดือนตุลาคม 2568”
พระเขี้ยวแก้ว หรือพระทันตธาตุส่วนเขี้ยวของพระพุทธเจ้า ถือเป็นสิ่งสักการะสูงสุดที่ปรากฏในคัมภีร์พระไตรปิฎก และเป็นหนึ่งใน “มหาปุริสลักขณะ” หรือลักษณะอันยิ่งใหญ่ของมหาบุรุษ ปัจจุบันเชื่อกันว่ามีพระเขี้ยวแก้วที่ประดิษฐานอยู่ในโลกเพียง 2 องค์ คือที่ วัดพระเขี้ยวแก้ว เมืองแคนดี้ ประเทศศรีลังกา และ วัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน สำหรับองค์พระเขี้ยวแก้ว (จำลอง) ที่อัญเชิญมาประดิษฐาน ณ อุทยาน เพ ลา เพลิน จ.บุรีรัมย์นี้ เป็นองค์ที่ 9 และเป็นองค์สุดท้ายที่เคยประดิษฐาน ณ วัดพระเขี้ยวแก้ว เมืองแคนดี้ ประเทศศรีลังกา โดยได้รับการเคารพอย่างสูงเทียบเท่าองค์จริง แต่หลักฐานบันทึกการสร้างยังไม่ปรากฏแน่ชัด เพียงมีการกล่าวถึงว่าการสร้างองค์จำลองนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่ พระอุบาลีมหาเถระ ได้เดินทางถึงศรีลังกาเพื่อฟื้นฟูพระพุทธศาสนาและสถาปนา นิกายสยามวงศ์ ขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงทางประวัติศาสตร์และศรัทธาระหว่างไทยและศรีลังกา
การอัญเชิญองค์พระเขี้ยวแก้ว (จำลอง) องค์ที่ 9 มาประดิษฐานยังอุทยานเรียนรู้ เพ ลา เพลิน จ.บุรีรัมย์ และผืนแผ่นดินประเทศไทยสืบเนื่องในวาระสำคัญ เพื่อเชื่อมสัมพันธ์ไทย - ศรีลังกา 700 ปี และเนื่องในโอกาสปี พ.ศ. 2559 เป็นปีมหามงคล พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเจริญพระชนมพรรษา ครบ 84 พรรษา ด้วยความเมตตาจากสมเด็จพระสังฆราช วะระกาเดอะ ญาณะรัตนะมหานายกะเถระ พระมหาสังฆนายกสยามวงศ์ ฝ่ายมัลวัตตะ ทรงประทานพระเขี้ยวแก้วจำลอง และหน่อต้นพระศรีมหาโพธิ์ จากต้นเก่าแก่ อายุกว่า 2,300 ปี มาปลูก ณ ประเทศไทย ที่อุทยานเรียนรู้เพ ลา เพลิน อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ โดยซึ่งมีการจัดพิธีอัญเชิญเมื่อ 19 กันยายน พ.ศ. 2559 โดยพระเทพปริยัติมุนี เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก ภาค 11 เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และพลเอก เชษฐา ฐานะจาโร ประธานมูลนิธิส่งเสริมพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมไทย - ศรีลังกา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส เป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ด้านพระพุทธศาสนาระหว่างไทยกับศรีลังกา และเป็นศูนย์รวมแห่งศรัทธาสำหรับชาวอีสานใต้และชาวไทยทุกคน
โดยกิจกรรมพิเศษช่วงเดือนแห่งบุญ อุทยานเรียนรู้ เพ ลา เพลิน จ.บุรีรัมย์ เปิดให้ประชาชนเข้าชมและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ฟรี! ตลอดเดือนตุลาคม 2568 (จากค่าเข้าชมปกติ ผู้ใหญ่ 150 บาท / เด็กและผู้สูงอายุ 80 บาท) เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมทำบุญและสร้างกุศลร่วมกัน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมและแหล่งเรียนรู้เชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติอีกมากมายในพื้นที่กว่า 390 ไร่ ที่พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวและครอบครัวที่ต้องการท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 087 797 6425
LINE: @PlayLaPloen หรือคลิก https://lin.ee/jIufYzR
Facebook: www.facebook.com/PlayLaPloen