3 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ จ.นนทบุรี จากกรณีนายทองใบ เสริฐสอน ผู้สมัคร ส.อบจ.นนทบุรี หมายเลข 1 กลุ่มผึ้งหลวง เขต 5 อ.ปากเกร็ด พานางสาววันเพ็ญ อายุ 30 ปี หญิงสาวที่อ้างตัวว่า ได้รับเงินซื้อเสียงจำนวน 900 บาท จากนางแล ซึ่งเป็นหัวคะแนนของนายจงกล สิงหา ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 2 จากทีมแบ่งปันความสุขคนรอบข้าง เพื่อให้กากบาทเลือกตั้งผู้สมัครหมายเลข 2 เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด น.ส.ชุลีพร ชาญใบพัด ผอ.กกต.จังหวัดนนทบุรี เปิดเผยว่า ภาพรวมการเลือกตั้งนายก อบจ.นนทบุรี และ ส.อบจ.นนทบุรี ที่ผ่านมา ไม่คึกคักเท่าที่ควร มีประชาชนมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งเพียง 41 % เท่านั้นน้อยกว่าการเลือกตั้งในปี 63 แต่อย่างไรก็ตามภาพรวมของการเลือกตั้งในครั้งนี้เป็นไปด้วยดี แม้จะมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งเข้ามาบ้าง ประมาณ 2-3 เรื่อง ซึ่งทาง กกต.จังหวัดจะนำเรื่องมาพิจารณาต่อไป
น.ส.ชุลีพร กล่าวถึงเรื่องที่ผู้สมัคร ส.อบจ.นนทบุรี พาชาวบ้านที่ได้รับเงินจากหัวคะแนนผู้สมัครรายหนึ่ง ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ว่า หลังทราบข่าวดังกล่าว ทาง กกต.จังหวัดนนทบุรีได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด เพื่อข้อมูลทั้งหมดในการนำเรื่องมาพิจารณาไต่สวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ก่อนจะพิจารณาว่า เรื่องดังกล่าวมีมูลความจริงหรือไม่ หากพบว่ามีมูลความจริง ก็จะรับเรื่องไว้พิจารณาและทำการไต่สวนต่อไป เพื่อสรุปความผิดส่งให้ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง เป็นผู้พิจารณาตามตัวบทกฎหมายของการเลือกตั้งต่อไป
ซึ่งหากพบว่า มีการทุจริตซื้อเสียงเลือกตั้งจริง ก็จะมีความจริงในคดีอาญา และความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง มีโทษตั้งแต่ตัดสิทธิ์ ไปจนถึงสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ ในขณะเดียวกันหากตรวจสอบพบว่า เป็นการกลั่นแกล้ง ใส่ร้ายให้ผู้สมัครคนอื่นเกิดความเสียหายต่อชื่อเสียง ก็จะถูกเพิกถอนและตัดสิทธิ์ในการลงสมัครรับเลือกตั้งเช่นเดียวกัน
โดย กกต.จะเรียกทั้งฝ่ายผู้ร้องและผู้ถูกร้อง มาเข้าให้ปากคำต่อไป และจะดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้ให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน หากระหว่างทำการสอบสวนแล้วแต่ยังไม่แล้วเสร็จก็สามารถขยายเวลาสืบสวนออกไปได้ครั้งละ 15 วัน แต่ไม่เกิน 2 ครั้ง เพื่อสรุปเรื่องให้ทางคณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาต่อไป