
24 ธันวาคม 2568 ที่พรรคประชาชาติ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคประชาชาติ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ, นายซูการ์โน มะทา เลขาธิการพรรคประชาชาติ และ นายวิทยา พานิชพงศ์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ในฐานะแกนนำพรรคประชาชาติ ร่วมกันแถลงข่าวนโยบายและแนวทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ พร้อมเปิดตัว รศ.ดร. รุ่งเรือง พิทยศิริ ในฐานะทีมเศรษฐกิจ เข้าสู่พรรคประชาชาติอย่างเป็นทางการ หลังตัดสินใจสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค และมีความประสงค์จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ในระบบบัญชีรายชื่อของพรรค
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า รศ.ดร.รุ่งเรือง พิทยศิริ เป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถสูง มีประวัติการศึกษาโดดเด่นทั้งในด้านวิศวกรรมศาสตร์ และปริญญาโท-เอก ด้านเศรษฐศาสตร์และการเงิน นอกจากนี้ยังมีประสบการณ์การทำงานที่ยาวนาน โดยเคยร่วมงานกับ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ตั้งแต่สมัยพรรคความหวังใหม่ และเคยเป็นหนึ่งในทีมเศรษฐกิจที่สำคัญของพรรคเพื่อไทยในเวลาต่อมา
“ปัญหาที่ใหญ่และวิกฤตที่สุดในขณะนี้ คือเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง และความเป็นอยู่ของประชาชน พรรคประชาชาติจึงจำเป็นต้องมีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์จริง ดร.รุ่งเรือง คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของนโยบายระดับประเทศมาแล้วหลายนโยบาย”
พ.ต.อ.ทวี กล่าวเพิ่มเติมว่า การเข้ามาร่วมงานของ ดร.รุ่งเรือง ในครั้งนี้ จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับพรรคในการวางนโยบายเพื่อแก้ปัญหาสำคัญ 4 ด้าน ได้แก่
1. ปัญหาเศรษฐกิจ และการหารายได้เข้าประเทศโดยไม่เบียดเบียนภาษีประชาชน
2. ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม
3. ปัญหาความยากจน
4. ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน
“โดยในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งที่จะถึงนี้ ตัวแทนของพรรคประชาชาติพร้อมที่จะขึ้นเวทีดีเบต และนำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่า พรรคมีทีมงานที่พร้อมจะขับเคลื่อนประเทศ และยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้นกว่าเดิม”
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาชาติ กล่าวแสดงความยินดีที่ได้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง หลังเคยทำงานร่วมกันมา ตั้งแต่สมัยพรรคความหวังใหม่เมื่อกว่า 20 ปีก่อน พร้อมกล่าวถึงความประทับใจในตัว ดร.รุ่งเรือง ว่าเป็น “ต้นกล้าของคนรุ่นใหม่” ตามที่พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ เคยปรารภไว้ และเป็นผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญทั้งในด้านวิศวกรรมศาสตร์และเศรษฐศาสตร์
“วันนี้พรรคประชาชาติได้เพชรเม็ดงามอีกเม็ดหนึ่ง ทั้งในฐานะนักการศึกษาและนักเศรษฐศาสตร์ ที่จะนำความคิดมาพัฒนาเป็นนโยบายที่สำคัญของพรรคต่อไป” นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว
ขณะที่ นายซูการ์โน มะทา เปิดเผยถึงความพร้อมในการสู้ศึกเลือกตั้ง ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ของพรรคประชาชาติ โดยแสดงความมั่นใจในฐานเสียงเดิม และแผนการดึงคนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมอุดมการณ์ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับพรรคตั้งเป้ากวาด สส.เขต 10 ที่นั่งขึ้นไป
นายซูการ์โน มะทา ระบุว่า ปัจจุบันพรรคประชาชาติ มีความพร้อมเต็มที่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และอีก 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา รวมทั้งหมด 15 เขตเลือกตั้ง โดยตั้งเป้าหมายหลักไว้ที่ สส.เขต อย่างน้อย 10 ที่นั่ง บวกลบอีก 1-2 ที่นั่ง ส่วนในระบบบัญชีรายชื่อ พรรคมีฐานเสียงเดิมจากคราวที่แล้วประมาณ 5 แสนคะแนน และยังมีกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ยังไม่ได้ตัดสินใจอีกกว่า 9 แสนคน ซึ่งพรรคจะเร่งนำเสนอนโยบายใหม่ๆ เพื่อดึงดูดคะแนนส่วนนี้มาเติมเต็มให้ได้มากที่สุด
ในส่วนของจุดขายทางการเมือง นายซูการ์โน มะทา เลขาธิการพรรคประชาชาติ เน้นย้ำถึงผลงานในช่วงเกือบ 3 ปีที่พรรคประชาชาติได้ร่วมรัฐบาลและกำกับดูแลกระทรวงยุติธรรม โดยระบุว่าพรรคได้ทำหน้าที่ "คืนความยุติธรรม" ให้กับพี่น้องประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม
"ที่ไหนมีความยุติธรรม ที่นั่นจะสร้างผลประโยชน์และความสุขให้ประชาชนได้มากที่สุด" - นายซูการ์โน มะทา เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าว
นายซูการ์โน มะทา ระบุว่า ผลงานที่สำคัญที่สุดคือการผลักดัน พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ซึ่งช่วยลดสถิติการเสียชีวิตระหว่างการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่รัฐได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องไทยพุทธหรือไทยมุสลิม
สำหรับกลยุทธ์ในครั้งนี้ พรรคประชาชาติจะใช้จุดแข็งจากอดีต สส. ที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ทำงานร่วมกับคนรุ่นใหม่ที่มีอุดมการณ์เดียวกัน เพื่ออุดช่องว่างและตอบโจทย์ความต้องการของคนทุกกลุ่มในพื้นที่ พร้อมยืนยันว่านโยบายภาพรวมของพรรคจะถูกนำมาปรับใช้ให้สอดคล้องกับความรับผิดชอบในแต่ละกระทรวงหากได้เป็นรัฐบาลอีกครั้ง