
13 ธันวาคม 2568 KPI Poll สถาบันพระปกเกล้า เปิดเผยผลสำรวจ เรื่อง “เสียงประชาชนต่อการเมืองและการเลือกตั้งครั้งใหม่” ที่ได้ทำการสำรวจ ระหว่างวันที่ 30 พ.ย.–10 ธ.ค. 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายตามภูมิภาคทั่วประเทศ จำนวน 2,016 ตัวอย่าง โดยมีบทสรุปสำคัญ (Hi-light) จากผลสำรวจ ดังนี้
• 45.7% มองว่าการเมืองแย่ลง
• 41.5% เห็นว่าเหมือนเดิม
• เพียง 9.3% ที่มองว่าดีขึ้น
➡️ สะท้อนบรรยากาศความไม่พอใจ และความรู้สึกว่า ยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกที่จับต้องได้
• 36.2% ต้องการผู้นำที่แก้เศรษฐกิจจริง
• 17.8% ซื่อสัตย์
• 8.5% ยึดมั่นหลักประชาธิปไตย
➡️ ประชาชนให้ความสำคัญกับ ผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจ
มากกว่า “คำอธิบายทางการเมือง”
แม้ประชาชนอยากให้แก้เศรษฐกิจ
แต่ “ปราบปรามทุจริต” กลับเป็นนโยบายเร่งด่วนอันดับ 1
➡️ สะท้อนมุมมองว่า คอร์รัปชันคือรากของปัญหาปากท้อง และเป็นจุดเปราะบางของการเมืองแบบอุปถัมภ์
หากพรรคที่ชอบเสนอแคนดิเดตที่ไม่ถูกใจ
• 59.2% พร้อม “เปลี่ยนใจ” หรือ “อาจเปลี่ยนใจ”
➡️ การเมืองไทยไม่ใช่แค่เรื่องพรรคอีกต่อไป
แต่เป็นเรื่อง คุณภาพและความน่าเชื่อถือของผู้สมัคร
• 68.7% ระบุว่ามีผลต่อการตัดสินใจลงคะแนน
➡️ ชื่อแคนดิเดตไม่ใช่สัญลักษณ์
แต่เป็น ปัจจัยเชิงพฤติกรรมของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
การเมืองไทยก่อนการเลือกตั้งครั้งใหม่ กำลังอยู่ในภาวะ ไม่พอใจ – คาดหวังสูง – และให้ความสำคัญกับ “ตัวบุคคล” อย่างยิ่ง
พรรคการเมืองที่ได้เปรียบในสนามเลือกตั้งคือพรรคที่
✔️ ฟังเสียงประชาชนอย่างจริงจัง
✔️ เสนอทางออกเศรษฐกิจที่จับต้องได้
✔️ สร้างความเชื่อมั่นด้านความซื่อสัตย์โปร่งใส
✔️ และมีแคนดิเดตที่ประชาชน “เชื่อถือได้จริง”