
12 ธันวาคม 2568 ดราม่ายุบสภา อนุทิน ชิงเหลี่ยมหักส้ม ขี่กระแสศึกชายแดน ณัฐพงษ์ ไม่ไร้เดียงสา แม้มีรอยด่างอุ้มหนูเข้าทำเนียบ
หนังม้วนเก่าเรื่องป่าช้าแตก หลังยุบสภา สส.สายบ้านใหญ่แห่ย้ายพรรค ส่วนใหญ่ซบภูมิใจไทย และกล้าธรรม
พลันที่ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตัดสินใจยุบสภา ภาพเก่าๆก็หวนกลับมา “นักเลือกตั้ง” พาเหรดกันไปลาออกจากพรรคเดิม และวิ่งไปสมัครสมาชิกพรรคใหม่
อย่างเช่นภาพ 4 อดีต สส.อีสานอย่าง นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ, กิตติ สมทรัพย์ ,ประเสริฐ บุญเรือง และนุชนาถ จารุวงษ์เสถียร เดินทางไปที่ กกต.ยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย
คาดว่า น่าจะมีอดีต สส.มากกว่า 40 คน จากหลายพรรคการเมือง ได้ไปยื่นลาออกจากพรรคเดิม และเตรียมจะย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย และพรรคกล้าธรรม
สำหรับพรรคประชาชน ก็จะมีอดีต สส.จำนวนหนึ่งไม่ได้ไปต่อ เพราะไม่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกผู้สมัคร สส.ของพรรค โดยมีอดีต สส.หลายคนโพสต์เฟซบุ๊กอำลาด้อมส้มเรียบร้อยแล้ว
ภาพรวมการเลือกตั้ง สส.ทั่วประเทศ ที่จะมีขึ้นในช่วงต้นปีหน้า จะแบ่งเป็น 2 ขั้วระหว่าง “พรรคบ้านใหญ่” กับ “พรรคกระแส”
ขั้วบ้านใหญ่ พรรคภูมิใจไทยยังเป็นเต็งแชมป์ในกลุ่มนี้ เพราะมีความได้เปรียบทางการเมือง เนื่องจากเป็นรัฐบาลรักษาการ และพลิกวิกฤตน้ำท่วมหาดใหญ่ กลับมาขี่กระแสชาตินิยม
การเลือกตั้ง สส.ทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2568 พรรคภูมิใจไทย ได้ สส.เขต 68 คน และ สส.บัญชีรายชื่อ 3 คน
ในการเลือกตั้งครั้งใหม่ เนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่ค่ายน้ำเงินได้ระดม สส.จากหลายพรรค โดยมีอดีต สส. “บ้านใหญ่” เกรดเอเข้ามาร่วมจำนวนมาก
พรรคเพื่อไทย : อดีต สส.12 คน ส่วนใหญ่เป็น สส.ภาคอีสาน และที่เหลือเป็น สส.ภาคกลาง ตะวันตกและตะวันออก
พรรครวมไทยสร้างชาติ : อดีต สส. 20 กว่าคน แยกเป็น กลุ่ม สุชาติ ชมกลิ่น ,กลุ่มเอกนัฏ พร้อมพันธุ์, กลุ่มลูกหมี-ชุมพล จุลใส และ กลุ่มชุมพล-โสภา กาญจนะ
พรรคพลังประชารัฐ : อดีต สส. 6 คน จากภาคใต้ และภาคอีสาน
พรรคประชาธิปัตย์ : อดีต สส. 4 คน จากสงขลา นครศรีธรรมราช และตรัง
พรรคชาติไทยพัฒนา : อดีต สส. 10 คน จากสุพรรณบุรี นครปฐม และร้อยเอ็ด
พรรคไทยสร้างไทย : อดีต สส. 3 คน จากอุดรธานี และยโสธร
ทั้งหมดเป็นข้อมูลเบื้องต้นที่ได้เห็นอดีต สส.เหล่านี้ ไปทำกิจกรรมร่วมกับแกนนำพรรคน้ำเงิน
นอกจากพรรคภูมิใจไทย ก็ยังมีพรรคกล้าธรรม ที่เป็นแม่เหล็กดูดอดีต สส.บ้านใหญ่ เข้ามาเสริมทัพไม่ต่ำกว่า 20 คน
สำหรับการเลือกตั้งสมัยหน้า ในขั้วพรรคกระแส จะมีพรรคประชาชน แข่งกับพรรคประชาธิปัตย์ ภายใต้การนำของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นตัวยืน
อย่าลืมว่า การเลือกตั้งครั้งที่แล้ว แฟนคลับ ปชป.ในภาคใต้ และ กทม.จำนวนไม่น้อยเทใจให้พรรคส้ม เพราะไม่ศรัทธาผู้นำพรรคยุคบ้านใหญ่
ส่วนพรรคเพื่อไทยเคยเป็นพรรคกระแส แต่ความตกต่ำในยุครัฐบาลแพทองธาร จึงทำให้เรตติ้งตกฮวบฮาบ พรรคแดงจึงอยู่ในขั้วบ้านใหญ่
ระยะนี้ “หัวหน้าเท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ อาจโดนวิจารณ์ว่าไร้เดียงสาปม MOA แต่ผลสำรวจคะแนนนิยมของโพลหลายสำนัก พรรคส้มเป็นอันดับหนึ่ง
มีรายงานจากพรรคประชาชน เรื่องกระบวนการพิจารณาคัดเลือกผู้สมัคร สส. ได้เปิดทางให้แชมป์เก่าเข้าร่วมการคัดสรรกับผู้เสนอตัวเป็นสมัครรายใหม่ แต่ไม่การันตีว่า อดีต สส.จะได้รับเลือกจากพรรคอีกครั้ง
อย่าง จ.นนทบุรี มีอดีต สส.ไม่ผ่านเกณฑ์ประเมิน และได้โพสต์อำลาด้อมส้มแล้วอย่าง นพดล ทิพยชล อดีต สส.นนทบุรี เขต 4
ปี 2566 พรรคก้าวไกล ได้ สส.บัญชีรายชื่อ 39 คน และ สส.เขต 112 คน รวมเป็น 151 คน แต่ปีหน้า เจ้าสำนักโพลชื่อดังประเมินว่า พรรคส้มน่าจะได้ สส.จำนวนไม่ต่างไปจากเดิม