
12 ธันวาคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตอบคำถามภายหลังการประกาศยุบสภา เมื่อคืนนี้ ประเทศไทยจะได้อะไรว่า เป็นการคืนอำนาจให้ประชาชน ตนและพรรคภูมิใจไทยมาเป็นรัฐบาลได้ก็ต้องยอมรับว่า พรรคประชาชนให้มาเป็น ซึ่งการพยายามแก้รัฐธรรมนูญมาตลอด ตามสัญญาที่มีต่อกัน MOA ซึ่งพรรคภูมิใจไทยก็ปฏิบัติมาโดยตลอด ส่วนมาตรา 28 ไม่ได้มีการพูดถึง และเมื่อวานหัวหน้าพรรคประชาชนได้แถลงในรัฐสภาว่า ถ้าพรรคภูมิใจไทยไม่โหวตตามที่พรรคประชาชนต้องการ ก็จะไม่ให้การสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย และขอให้ยุบสภา
"เพราะท่านให้ตนมาเป็นนายกฯ ถ้าท่านไม่สนับสนุนผมแล้ว ท่านขอให้ผมยุบสภา ผมก็ต้องทำตามท่าน เป็นไปตามมารยาทขั้นตอนที่ควรจะเป็น"
เมื่อถามว่า ก่อนที่จะมาถึงจุดนี้ได้มีการพูดคุยกับพรรคประชาชนหรือไม่ นายกฯ ยอมรับว่า มีการพูดคุยประสานงานกัน ซึ่งคนประสานงานหลักคือ นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่า การยุบสภาเพราะพรรคประชาชนจะยื่นญัตติ อภิปรายไม่ไว้วางใจตาม 151 ใช่หรือไม่ นายกฯ หยุดคิดก่อนจะตอบว่า
"ผมว่าชัดเจน ท่านบอกให้ผมยุบสภา ผมก็ยุบ เพราะท่านเป็นคนให้ผมมาเป็นนายกฯ เราก็ให้เกียรติท่าน เราได้ทำทุกอย่างแล้ว เรื่องรัฐธรรมนูญ มีการโหวตในวาระ 1 และ วาระ 2 แล้ว แต่ไปติดอยู่หนึ่งวาระที่เกี่ยวข้องกับ สว. ซึ่งพรรคภูมิใจไทยไม่มีความสามารถที่จะไปกดดัน หรือบังคับโน้มน้าวให้ สว. ลงมติตามที่พรรคประชาชนต้องการได้"
เมื่อถามย้ำว่า แต่ชนวนเหตุมาจากการให้อำนาจ สว. 1 ใน 3 ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถือเป็นการหักหลังทางการเมือง หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มีการหักหลังใดๆ MOA เขียนไว้ว่าอย่างไร มีอยู่ 4-5 ข้อ ไม่มีเรื่องเกี่ยวกับ สว. เลย เป็นเรื่องของพรรคภูมิใจไทยที่จะพยายามอย่างเต็มที่ ไม่เพิ่ม สส. ไม่พยายามเป็นเสียงข้างมาก ทั้งที่ในบริบททางการเมืองเราสามารถพยายามได้ถ้าจะพยายาม แต่เราก็ไม่ทำ และยังดำเนินการให้มีประชามติ เราก็จะมีให้ เมื่อวานสภาน่าจะมีเรื่องโหวตประชามติเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งถ้าส่งมาที่คณะรัฐมนตรีก็ได้ตรวจสอบกับ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโน รองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย บอกว่า สามารถที่จะกำหนดวันลงประชามติได้ โดยคณะรัฐมนตรีที่ยังรักษาการอยู่ ตนก็ต้องทำให้ รักษาเงื่อนไขตาม MOA ทุกอย่าง ไม่มีการหักหลังใดๆทั้งสิ้น
เมื่อถามว่า หากจะจับมือกับพรรคประชาชนในอนาคตยังทำได้หรือไม่ แม้จะเกิดเหตุเมื่อวานนี้ นายกฯ กล่าวว่า
“ทุกอย่างยังเป็นได้หมดครับ”
เมื่อถามว่า ปัจจัยอะไรที่ทำให้ตัดสินใจยุบสภา เร็วกว่ากำหนด เหมือนเป็นการเตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว นายกฯ กล่าวว่า ไม่มี ก็ทำตามที่หัวหน้าพรรคประชาชนได้แถลง และขอให้นายกฯ ยุบสภา ซึ่งตนร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาเตรียมไว้แต่วันแรกที่รับตำแหน่งอยู่แล้ว ตนที่เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย เข้ามาเพื่อจัดการปัญหาบ้านเมืองก็ทำแล้ว เรื่องของการเจรจาการค้าให้เดินต่อไป ก็ได้การยอมรับของนานาชาติ เรื่องของความมั่นคงให้มีความเป็นปึกแผ่น คนที่เขานำเราเข้ามา เขาให้ทำแค่นี้ เราก็คืนอำนาจให้ประชาชน
ส่วนกระแสข่าวจะมีการโทรคุยกับ นายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ช่วง 3 ทุ่มนั้น นายกฯ กล่าวว่า เวลา 21.20 น. ตามเวลาประเทศไทย พร้อมย้ำว่า "มีอำนาจเต็มในการพูดคุย"
ส่วนที่ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มาบรีฟเมื่อวานนี้นั้น นายกฯ กล่าวว่า การพูดคุยกับนายโดนัล ทรัมป์ คงเป็นเพียงการอัปเดต ซึ่งท่านคงถามว่าตอนนี้เป็นอย่างไร เพราะล่าสุดที่คุยกันคือตอนตามเสด็จอยู่ที่ประเทศจีน ประมาณเกือบเดือนแล้ว ก็คงมีการอัปเดตกัน แต่เรื่องการตัดสินใจดำเนินการอะไรทั้งหลาย เป็นเรื่องของรัฐบาลไทย ที่จะสนับสนุนและมอบอำนาจให้กองทัพไทยไปดำเนินการ
เมื่อถามว่า สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนได้หรือไม่ว่า แม้ยุบสภาแล้วแต่ชาวบ้านยังกังวลสถานการณ์ชายแดน นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลรักษาการมีอำนาจเต็มในการบริหารราชการแผ่นดิน มีแค่ข้อยกเว้นบางอย่าง ถ้ามีความจำเป็นที่จะต้องใช้ข้อยกเว้นนั้น ก็ไปขอและอธิบายต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. หากเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
เมื่อวางไทม์ไลน์โดยเทียบกับไทม์ไลน์ในอดีต เลือกตั้ง 60 วัน ก็ต้องดูว่าวันอาทิตย์เป็นวันไหน จากนั้นก็รับรองผลการเลือกตั้งอีกประมาณ 45 วัน จัดตั้งคณะรัฐมนตรีอีกประมาณ 1 เดือน ทุกรัฐบาลก็จะหมดวาระไปเมื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้าเฝ้าถวายสัตย์ นับดูก็ประมาณ 5-6 เดือน
เมื่อถามว่า สถานการณ์ชายแดนจะยุติก่อนมีการเลือกตั้ง หรือไม่ นายกฯ เพราะเป็นอุปสรรคต่อการเลือกตั้งในพื้นที่ชายแดน กล่าวว่า เราก็ต้องพยายามทำ เรื่องการปกป้องอธิปไตย ปกป้องดินแดน ทหารก็ทำเต็มที่
ส่วนกระแสข่าวท่าทีของกัมพูชาที่บอกว่า จะหยุดยิง นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่ได้รับทราบ เดี๋ยวจะไปที่กองบัญชาการกองทัพไทย เพราะต้องคุยกับนายกฯ มาเลเซีย และประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ อีกครั้ง ก็จะไปขอฟังสรุปสถานการณ์การดำเนินการจากกองทัพไทย
ส่วนสถานการณ์ชายแดนเป็นแบบนี้ ยังสามารถจัดการเลือกตั้งทั่วประเทศ พร้อมกันได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า อยู่ที่ กกต. ตอนนี้สถานะของรัฐบาลในความเป็นรักษาการ ก็เป็นรัฐบาลอยู่ ไม่รู้จะพูดอย่างไร เรายังมีการประชุมคณะรัฐมนตรีทุกวันอังคาร ซึ่งวันที่ 23 ธันวาคม ก็ยังคงไปประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดสงขลา เพื่อให้เกิดความมั่นใจ ให้รัฐมนตรีทุกคนได้เห็นถึงความสำคัญ ในการเร่งกระตุ้นและฟื้นฟูเยียวยาให้จังหวัดนี้กลับคืนสภาพโดยเร็วที่สุด เพราะเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพและมีโอกาสมากมาย เราก็ทำหน้าที่เหมือนปกติ เพียงแต่ไม่มีสภาจนกว่ารัฐบาลชุดใหม่เข้าเฝ้าถวายสัตย์
เมื่อถามว่า ยังจะได้คนละครึ่งอีกรอบหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า จริงๆ ก็เป็นนโยบาย ที่ดำเนินการและพูดกันมาไว้หมดแล้ว
ส่วนที่ด่านปอยเปต กักตัวคนไทยไว้นั้น นายกฯ กล่าวว่า ได้รับรายงาน ซึ่งหน่วยความมั่นคงเขาดำเนินการอยู่
เมื่อถามว่า มีคนบอกว่า เพราะเรายุบสภาแล้ว สมเด็จฮุนเซน ก็เลยให้หยุดยิง กลายเป็นว่ารัฐบาลไทยกับเขาสมรู้ร่วมคิดกัน
นายกฯ ย้ำว่า ไม่มี ยุบสภาเพราะหัวหน้าพรรคประชาชนบอกให้ยุบ
ส่วนประเมินความแตกต่างอย่างไร การยุบสภาวานนี้ กับยุบสภาในช่วงปกติ นายกฯ บอกว่า มันไม่แตกต่าง รัฐบาลเสียงข้างน้อยทำงานได้ครบ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า ทำงานต่อเนื่องในช่วงที่ประเทศกำลังมีปัญหากับประเทศเพื่อนบ้าน การยุบสภาก็ยังมีความต่อเนื่อง เพราะรัฐบาลก็ยังบริหารราชการแผ่นดินอยู่ สามารถดำเนินการรักษาความสงบ รักษาธิปไตยได้ด้วยความต่อเนื่อง
เมื่อถามว่า มีอะไรอยากบอกประชาชน นายกฯ กล่าวว่า ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ด้วยอำนาจในการบริหารราชการแผ่นดินที่มีอยู่ตามรัฐธรรมนูญ ขอให้ความมั่นใจ
เมื่อถามว่า การทำประชามติ ยังถามเรื่องยกเลิกเอ็มโอยู 43-44 นายกฯ กล่าวว่า แล้วแต่นโยบายของรัฐสภา
เมื่อถามย้ำว่า กลัวจะมีผลต่อคะแนนเสียงหรือไม่ นายกฯ ไม่ตอบ ได้แต่ยิ้ม