อดีตทูตแนะ คีย์เวิร์ด-เทคนิค “อนุทิน” เจรจา “ทรัมป์” ให้สำเร็จ

11 ธันวาคม 2568 จากสถานการณ์การปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2568 จนถึงวันนี้ เป็นวันที่ 4 ขณะที่เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2568 นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประกาศว่าต่อสายพูดคุยเจรจากับนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กับ นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เพื่อเจรจาหยุดยิงในวันนี้(12ธ.ค.68)นั้น

 

ล่าสุด วันนี้ รายการเนชั่นวิเคราะห์ข่าว สัมภาษณ์ นายพิศาล มาณวพัฒน์ อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เกี่ยวกับเทคนิคในการพูดคุยเจรจาของนายอนุทิน ชาญวีรกูล กับ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ให้ประสบความสำเร็จและบรรลุวัตถุประสงค์ ต้องทำอย่างไร

 

โดยนายพิศาล กล่าวว่า ปฏิญญาสันติภาพมันเป็นหน้าตาของทรัมป์ เขาบินมาด้วยตัวเอง เขาเป็นสักขีพยาน เขาไม่ได้ยอมแพ้เรื่องรางวัลโนเบล เพราะมีประกาศทุกปี เพราะฉะนั้นที่เขาหวังว่า ในระหว่างที่เขาเป็นประธานธิบดีหรือครบวาระ เขาก็ยังจะได้รับรางวัลอยู่ เพราะฉะนั้นทรัมป์จะทำเรื่องการหยุดยิงไทยกัมพูชา ที่เขาเอาหน้าตาตัวเองมาเป็นประกันไปจนกว่าเขาจะพอใจ

 

เมื่อถามว่า การเจรจาหยุดยิงครั้งนี้จะซ้ำรอยเดิมไหม นายพิศาล กล่าวว่า ผมเชียร์ให้กำลังใจนายกฯ อย่าเพิ่งถอดใจ รับโทรศัพท์พร้อมความมั่นใจว่า ทรัมป์จะเป็นประโยชน์กับประเทศไทย เรารู้จักทรัมป์ เราต้องรู้ว่าจะคุยกับเขายังไง เขาชอบให้คนยกย่อง ชอบให้คนอวย อย่าเขินที่จะอวย อวยเพื่อให้เขารู้สึกดีกับเรา

วัตถุประสงค์หลักของการพูดกับทรัมป์ คือ การยืมมือทรัมป์ไปกดดันฝ่าย ฮุน เซน ฮุน มาเนต ยกแม่น้ำทั้ง 5 ว่า กัมพูชาละเมิดปฏิญญาของทรัมป์เองครั้งแล้วครั้งเล่า ทหารไทยขาขาด ถูกลอบยิง รวมถึงแก๊งสแกมเมอร์เป็นฮับที่ใหญ่ที่สุดของโลกที่มาจากกัมพูชา

 

ท่านนายกฯต้องแสดงความรู้สึกว่าอยากจะปรับทุกข์กับทรัมป์ว่ามีเพื่อนบ้านเกเร ทำกิจกรรมที่เป็นอาชญากรรมข้ามชาติ คนอเมริกันก็ได้รับผลกระทบมากมายจะทำยังไงดี ผมคิดว่าถ้าโทนออกมาแนวนี้ ถ้านายกฯอนุทินพูดดีด้วย ยกย่องสิ่งที่เขาทำมา มันอยู่ที่มู้ด ทรัมป์จะมีความพอใจ และจะร่วมมือในการกดดันกัมพูชา

 

 

เมื่อถามว่า เท่าที่ดูท่าทีที่นายอนุทิน เคยคุยกับทรัมป์ ที่เอเปค จะสามารถพลิกสถานการณ์ได้ไหม นายพิศาล กล่าวว่า คิดว่าภาษากายกับคำพูดบอกว่า เราทำได้ดี ผมไม่อยากให้ข่าวออกมาก่อนหน้านี้ในทางที่จะทำให้ทรัมป์รู้สึกว่าเราถอดใจ เราไม่ต้องการปฏิญญาสันติภาพแล้ว แบบนี้เราจะเพลี่ยงพล้ำให้กับ ฮุน มาเนต ที่อวย ทรัมป์ อย่างเต็มที่ และจะไปฟ้องว่าเขาถูกรังแกโดยประเทศที่ใหญ่กว่า

 

ด้านสถานทูตไทยผมมั่นใจ ท่านทูตไทยทำได้อย่างมากมาย ทำอยู่และทำต่อไป แต่การเข้าถึงทรัมป์ได้โดยตรงมาจากท่านนายกฯอนุทิน กับ ฮุน มาเนต โอกาสสำคัญอย่างนี้ นายกฯต้องเตรียมโทนให้ดีๆ ให้เห็นว่าเราเป็น GOOD GUY และอีกข้างหนึ่งเป็น BAD GUY เป็นเพื่อนบ้านที่เกเร ทำให้เขารู้สึกหัวอกเดียวกัน

 

เมื่อถามว่า ต่างฝ่ายต่างบอกว่าอีกฝ่ายเป็นผู้รุกราน นายพิศาล กล่าวว่า เป็นบทบาททางการทูตรที่สำคัญมาก ไม่อยากให้ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมต.ต่างประเทศ ถอดใจ ดูเหมือนตอนหลังๆท่านคงเหนื่อยๆ และท่านพูดว่าดูเหมือนความสัมพันธ์ตอนนี้เกือบไม่มีพื้นที่ทางการทูตแล้ว ผมอยากให้คิดใหม่ว่าจังหวะนี้เป็นจังหวะที่จำเป็นต้องเร่ง ความพยายามทางการทูต คือ ฝ่ายทหารปฏิบัติได้เต็มที่ ตราบใดที่เราไม่ละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติที่ได้สัดส่วน ผมว่าโจมตีกาสิโน แหล่งสะสมอาวุธ ทำไปให้เต็มที่เลย เรามีเหตุผลเต็มที่

 

แต่คู่ขนานกัน การทูตก็ต้องทำเต็มที่เช่นกัน สำหรับผม รมต.ต่างประเทศ ควรบินไปที่วอชิงตัน ควรไปจับเข่าคุยกับ มาโคโรบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ คุยกับผู้นำคองเกรส โดยเฉพาะคนที่ยกร่างกฎหมายที่จะมาปราบปรามสแกมเมอร์ มีทั้งอยู่ในสภาผู้แทนกับอยู่ในวุฒิสภา ควรจะบินไปปักกิ่ง พูดคุยกับ รมต.ตปท.หวังอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจีน  เพื่อให้กดดันกัมพูชา เพราะจรวด กับโดรนที่บินเข้ามาประเทศไทย มันปฏิเสธไม่ได้ เพราะความสัมพันธ์หรือผลประโยชน์ที่เขามีอยู่กับไทย มีมากกว่ากัมพูชา แน่นอน

 

“ท่านสีหศักดิ์ ผมคิดว่าท่านเหนื่อย เหมือนถอดใจ และพลาดโอกาสที่จะย้ำเตือนจุดอ่อนของกัมพูชา และเป็นจุดแข็งที่เราจะให้โลกมาล้อมกัมพูชา คือ เรื่องทุ่นระเบิดสังหารและสแกมเมอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ถ้าเป็นผม จะจัดแบคดรอปด้านหลังและเอาภาพทุ่นระเบิดที่เก็บได้ใหม่ๆ ที่มีคณะผู้สังเกตการณ์ มีภาพกาสิโน ภาพคนเจ็บที่เราหามมา รพ. ภาพเหล่านี้สื่อความหมายได้

 

มิฉะนั้นในโลกของสื่อมาตรฐานระดับประเทศ อาทิ บีบีซี ช่วงเช้าเขาจะเขียนว่ามีพลเรือนกัมพูชาเสียชีวิต 7 ราย ทหารไทยเสียชีวิต 5 นาย พอค่ำเขาเปลี่ยนเป็น พลเรือนกัมพูชาเสียชีวิตอย่างน้อย 9 ราย ทหารไทยเสียชีวิต 5 นาย คนที่เห็นเขาก็เอ๊ะว่า เป้าหมายเราเป็นพลเรือน สำหรับผมเราต้องเร่งในการส่งสาร สื่อสารให้ชัดเจนว่า พลเรือนของเราถ้าเสียชีวิตแล้ว เอามาลงข่าว อันนี้เป็นจุดให้เขาเห็นว่าการรบเราอยู่ในกรอบ แต่ของกัมพูชาละเมิดกรอบ

 

คีย์เวิร์ดการเจรจา ของ นายกฯอนุทิน กับ ทรัมป์

 

คีย์เวิร์ดในการคุยของทรัมป์ คือ ปฏิญญา คือ หน้าตาของทรัมป์ ไม่ควรพูดว่าจะออกจากปฏิญา และระงับปฏิญญา แต่คีย์เวิร์ดสำคัญในการคุย คือต้องบอกว่าคนที่ทำลายปฏิญญา คือ กัมพูชา ไม่ใช่ไทย และให้สหรัฐฯกดดันกัมพูชา

 

“การคุยโทรศัพท์มันดี เราสามารถมีโพยอยู่ข้างหน้า หวังว่ากระทรวงการต่างประเทศ(กต.)จะเขียนโพยเป็นภาษาที่เข้าใจง่ายตรงประเด็นถูกใจทรัมป์ ให้เขารู้สึกว่าผู้นำของไทยพูดออกมาดีมากเลย ไทยกำลังเดือดร้อนจากเพื่อนบ้านที่เกเร คือ โทนของการเขียนโพย ต้องรู้สึกอุปนิสัยทรัมป์ และเชื่อมั่นว่า กต.รู้เรื่องนี้”นายพิศาลกล่าว