
22 พฤศจิกายน 2568 ปมร้อนการเมือง เมื่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ออกมาเปิดเผยว่า อาจจะมีการยุบสภาเร็วขึ้น เป็นวันที่ 12 ธันวาคม นี้ หลังฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยนายกฯ ให้เหตุผลว่า หากถูกยื่นซักฟอก ต่อให้ชี้แจงดีแค่ไหนก็โหวตแพ้ เพราะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย
สิ่งที่นายกฯ อนุทิน กล่าวเกิดคำถามว่า ทำไมต้อง 12 ธันวาฯ ??
- เรื่องนี้ไม่ใช่แค่กลอนพาไป อันสืบเนื่องจากการพูดปาฐกถาบนเวทีของประชาชาติธุรกิจ
**แต่มีการเตรียมแผนมาก่อนหน้านี้แล้ว
**หลักฐานคือ รายการเนชั่นวิเคราะห์ข่าว รายงานตั้งแต่วันจันทร์ และวันอังคาร ช่วงที่มีข่าวย้ายใหญ่มหาดไทย “ล็อตที่ 2” ผู้ว่าฯ 18 จังหวัด มีการอธิบายเหตุผลเชิงลึกที่ไม่ได้บอกสังคมว่า ต้องจัดแถว จัดทัพข้าราชการมหาดไทยให้จบโดยเร็ว เพื่อเตรียมพร้อมเลือกตั้ง เพราะมีข่าวจากพรรคภูมิใจไทยว่า เร็วที่สุดอาจจะยุบ 12 ธันวาฯ จึงพูดกันในวงการว่า “12 ธันวาฯ วันอันตราย” เพราะอาจเป็นวันสุดท้ายของสภาชุดนี้
- เป็นห้วงเวลาเซฟโซน ป้องกันถูกตลบหลังยื่นซักฟอก
**เพราะท่าที อ.วันนอร์ เปลี่ยนไป จากที่เคยเปิดใจกับ “ทีมข่าวข้นคนข่าว” สายตรงจากฮังการีว่า ยื่นญัตติแล้วยังยุบได้ จนกว่าจะบรรจุเป็นวาระการประชุมสภา และแจ้งไปยังรัฐบาล ล่าสุด อ.วันนอร์ กลับลำ อ้างการตีความของฝ่ายกฎหมายว่า ยื่นปุ๊บ ยุบไม่ได้ทันที
**เรื่องนี้แม้ อ.บวรศักดิ์ มือกฎหมายรัฐบาลจะออกมาค้าน แต่ใครจะกล้าเสี่ยง แล้วหากมีข้อสงสัย ยื่นยุบไป อาจฟาวล์ เหมือนรัฐบาลรักษาการเพื่อไทย เสียรังวัดเปล่าๆ
- หากปล่อยให้ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ แล้วแพ้โหวต (เสียงไม่ไว้วางใจเกินกึ่งหนึ่ง) จะกลายเป็นนายกฯคนแรกของประวัติศาสตร์การเมืองไทย ที่ต้องพ้นจากตำแหน่งเพราะโดนสภาลงมติไม่ไว้วางใจ เป็นตราบาปชั่วชีวิต และ ครม.ต้องพ้นหน้าที่ ต้องสรรหา ครม.ใหม่ และฝ่ายตัวเองไม่มีแคนดิเดตแล้ว ยุบสภาก็ไม่ได้ มีโอกาสที่ฝั่งเพื่อไทยจะกลับมา และได้ทำหน้าที่รัฐบาลเต็มตัว ก่อนยุบสภาเป็นรัฐบาลรักษาการช่วงเลือกตั้ง
- พรรคภูมิใจไทยเตรียมคำอธิบายเอาไว้แล้ว กรณียุบสภาแล้วร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมต้องตกไป ไม่ใช่เพราะรัฐบาลเสียงข้างน้อย แต่เป็นเพราะพรรคเพื่อไทย หรือฝ่ายค้าน ฝ่ายค้ำ ที่ยื่นญัตติแล้วโหวตคว่ำตัวเอง
- แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ได้หายไปหรือสิ้นหวัง ยังทำประชามติคำถามแรกได้ ว่า “ต้องการให้จัดทำ รธน.ฉบับใหม่หรือไม่?” แต่ต้องทำประชามติทั้งหมด 3 ครั้ง
- ภูมิใจไทยพร้อมยุบสภาเลือกตั้งใหม่มากที่สุดในขณะนี้เพราะ...
**แคนดิเดตนายกฯ มีครบแล้ว อย่างน้อยก็เปิดตัวก่อน ได้รับกระแสตอบรับไปก่อนเรียบร้อย
**พรรคอื่นยังหาแคนดิเดต เช่น ประชาธิปัตย์ เพื่อไทย และยังไม่ลงตัว รวมถึงมีแรงกดดัน เปิดมาแล้วต้องปังกว่า
**บางพรรคยังไม่รู้อนาคต โดยเฉพาะพรรคประชาชน มีคดี 44 สส.ก้าวไกล (25 สส.ชุดปัจจุบัน) ค้ำอยู่ หากยุบสภาเร็ว อาจยิ่งกระทบ
**นโยบายประชานิยมกำลังออกดอกออกผล โดยเฉพาะ “คนละครึ่งพลัส”
**จัดทัพข้าราชการเกือบเรียบร้อย ปลายเดือนนี้ย้ายตำรวจระดับรองผู้การ ถึงผู้กำกับ (ประชุม ก.ตร. 25-26 พ.ย.) และหากยังมีเวลา อาจย้ายได้ถึงสารวัตร เรียกว่าลงถึงรากหญ้า
**ดูดบ้านใหญ่ เตรียมเปิดตัวอีกล็อตใหญ่ 23 พ.ย.นี้
**ทรัพยากรพร้อมที่สุด สะสมทุนแข็งแกร่งกว่าทุกพรรค เพราะคุมกระทรวงเกรด A++ มาตลอด
**เดินหน้าโมเดล “หอคอยคู่” คือ บ้านใหญ่ ผสาน ขยายฐานเทคโนแครต มือเศรษฐกิจ
ล่าสุด มีข่าวล่ามาแรง ปักหมุดวันยุบสภา ถ้าไม่ 12 ธันวาฯ ก็ขยับไปอีก 2-3 วัน เพื่อจัดการเรื่องงบประมาณ และอนุมัติคนละครึ่งพลัส เฟส 2 รองรับเลือกตั้งกันแบบชื่นมื่นทั้งประเทศ
หากเป็นไปตามนี้ คาดว่าวันเลือกตั้ง จะอยู่ที่ 8 ก.พ. หรือ 15 ก.พ.69 ซึ่งเป็นวันอาทิตย์ เร็วกว่าเดิมประมาณเดือนครึ่ง ซึ่งนายกฯอนุทินบอกแล้วว่า ไม่ต่างอะไรกันกับการยุบสภา 31 ม.ค. แล้วเลือกตั้ง 29 มี.ค.69