
18 พฤศจิกายน นาวาเอก นายเเพทย์ เทวเจษฎา ภาเรือง ที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิ กรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดน ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ (กมธ.มั่นคงฯ) โพสต์ภาพการประชุมกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 ลงเฟซบุ๊กส่วนตัวพร้อมข้อความ ระบุว่า “ หนูจ่ายส่วยแล้วทำไมถึงยังโดนจับ” เป็นประเด็นที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ ยังรอการตรวจสอบความจริง
คุณพิมพ์วิไล นำข้อมูลอ้างถึงการส่งส่วยตำรวจยื่นต่อรัฐสภารอการตรวจสอบ พร้อมพยานหลักฐานจาก พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล (บิ๊กโจ๊ก) และคุณอัจฉริยะ ว่า “หนูจ่ายส่วยแล้วทำไมถึงยังโดนจับ” เป็นประเด็นที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ ยังรอการตรวจสอบความจริง หากแต่ในห้องประชุมท่านรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้คำมั่นว่าจะกำจัดตำรวจที่เกี่ยวข้องและรักษาน้ำดีไว้ องค์กรตำรวจยังเป็นองค์กรพิทักษ์สันติราษฎร์ที่พึ่งพาและนับถือของประชาชน อีกทั้งยังให้ความเห็น 4 ข้อหลักสำคัญ จากที่เป็นประเด็นความสนใจสังคมในขณะนี้ คือ
1 ข้าราชการตำรวจหรือผู้พิทักษ์สันติราษฎร์คือความหวังแห่งการพึ่งพาของประชาชน หากมีการตรวจสอบได้จริงว่ามีการรับส่วย ท่านรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้คำมั่นจะทำการกวาดล้าง
2 คำพูดหนึ่งของคุณพิมพ์วิไล ทำให้ตัวผมเองถึงกับสะดุ้งและเชื่อว่าหลายคนคงมีความรู้สึกสุญญากาศ หรือบางอย่าง เช่นเดียวกันกับคำพูดที่ว่า “หนูส่งส่วยแล้วทำไมหนูถึงยังโดนจับ” ต้องการความยุติธรรม
3 การที่หน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของข้าราชการตำรวจเข้ามาชี้แจงด้วยตนเอง เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมมาก กรรมาธิการไม่ได้มีหน้าที่ในการตัดสินถูกผิด หากแต่ทำการตรวจสอบโดยอำนาจตามรัฐธรรมนูญ กระบวนการการตัดสินต้องรออำนาจทางตุลาการ และความถูกต้องที่ประชาชนได้รับรู้ทั่วไป
4 ทุกคนคงเห็นพ้องเหมือนผมว่า เรามิอาจจะปล่อยให้กระบวนการ พนันออนไลน์ การฟอกเงิน สแกมเมอร์ หรือ ระบบคอร์รัปชัน(ส่งส่วย) หลุดพ้นไปจนถึงเจเนอเรชันของลูกหลานเราได้