
12 พฤศจิกายน 2568 จากกรณีไทยประกาศหยุดปฏิญญาสันติภาพไทย-กัมพูชา และระงับการส่งกลับ 18 เชลยศึก หลังจากพบว่าทหารไทยเหยียบกับระเบิดที่ฝ่ายกัมพูชานำมาวางไว้ทำให้สูญเสียขาเป็นรายที่ 7 ที่ห้วยตามาเรีย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา
ล่าสุด พล.ท.กนก เนตระคะเวสนะ อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 2(อดีต มทภ.2) อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ถึงมุมมองในยุทธวิธีการรบ เสนอมาตรการกดดันกัมพูชา เอาไว้อย่างน่าสนใจ ดังนี้
1.เหตุการณ์ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดครั้งล่าสุด เป็นเจตนาของกัมพูชาที่ล่อให้ทหารไทยเข้าไปติดกับ ไม่ใช่เหตุบังเอิญ
2.ไทยกำลัง "รบกับโจร ไม่ได้รบกับสุภาพบุรุษ" จึงจำเป็นต้องมีมาตรการตอบโต้ที่เด็ดขาด
3. เสนอยกระดับมาตรการกดดัน “ตัดไฟ - ตัดน้ำมัน – ตัดอินเทอร์เน็ต”
“ที่ประชุม สมช.ต้องนำมาตรการที่เคยเสนอไว้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2568 กลับมาพิจารณาอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการตัดไฟ และตัดอินเทอร์เน็ตที่ไทยส่งให้กัมพูชาในหลายพื้นที่ เพื่อให้กัมพูชาได้รับความเดือดร้อนและรู้สึกถึงผลกระทบจากการกระทำของตน”
4. แนะตั้งกฎการปะทะใหม่ (Rule of Engagement: ROE) เพราะ ROE ที่มีอยู่เดิม เน้นการตอบโต้เมื่อถูกยิงก่อน ไม่สามารถใช้ได้กับสถานการณ์ "สงครามกองโจร" หรือการลอบวางระเบิดเช่นนี้
“ไทยต้องสร้างความชอบธรรมและประกาศกฎการปะทะสำหรับกัมพูชาโดยเฉพาะ โดยต้องเจรจาและทำข้อตกลงให้ชัดเจนว่า หากมีการวางทุ่นระเบิดและทหารไทยได้รับบาดเจ็บอีก ไทยจะตอบโต้ด้วยการยิงทันที เพราะเราจะไปวางระเบิดตอบโต้ไม่ได้”
5. อีกหนึ่งต้นตอของปัญหาคือการปล่อยให้กำลังทหารทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากันในระยะใกล้ การถอนอาวุธหนักเพียงอย่างเดียวไม่ช่วยลดความตึงเครียดหน้าแนว ต้องเสนอให้กัมพูชาถอยลงจากพื้นที่ที่รุกล้ำขึ้นมา
- ฝากถึงรัฐบาลแก้ปัญหาด้วยความกล้าหาญ และทำจริง
“ปัญหาที่ยืดเยื้อมานาน เป็นเพราะ คนมีอำนาจ ไม่กล้าทำจริงจัง มัวแต่กลัวความตึงเครียด ขอเรียกร้องให้ฝ่ายทหารเสนอแนวทางแก้ปัญหาที่ชัดเจนต่อฝ่ายการเมือง เพื่อยุติปัญหานี้อย่างเด็ดขาด”
ชี้เป้าตัดไฟ-ตัดเน็ต "ธุรกิจสีเทา"
- ยกตัวอย่างพื้นที่ "โอร์เสม็ด" ตรงข้ามกับจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม จ.สุรินทร์ เป็นที่ตั้งของธุรกิจสีเทาที่กำลังขยายเข้ามา มีการสร้างตึกรามบ้านช่องหนาแน่น
- พื้นที่เหล่านี้ ใช้ไฟฟ้าและสัญญาณโทรศัพท์จากฝั่งไทย
- ช่วงที่มีการกวาดล้างแก๊งสแกมเมอร์ เกาหลีก็เข้าไป แต่ทำไมไทยจึงไม่ตัดไฟหรือตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตในพื้นที่เหล่านี้
- สะท้อนว่าอาจมีผลประโยชน์บางอย่างเข้ามาเกี่ยวข้อง
- มาตรการกดดันที่ผ่านมา เช่น การปิดด่าน ก็ทำได้ไม่จริงจัง
- ยังมีการลักลอบส่งสินค้า โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิง ไปให้กัมพูชาผ่านช่องทางอื่น ทั้ง "ทางทะเล" และ "ผ่านลาว"
- การที่กัมพูชายังคงได้รับเสบียงและปัจจัยที่จำเป็นเหล่านี้ ทำให้มาตรการปิดด่านของไทยไม่ได้ผล และกัมพูชาไม่เดือดร้อนเท่าที่ควร
รบแบบนี้ไม่มีวันจบ