“บิ๊กเล็ก” ลุยชายแดนไทย-กัมพูชา ศรีสะเกษ ให้กำลังใจทหารแนวหน้า

8 พฤศจิกายน 2568 พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา ในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมสร้างขวัญและกำลังใจให้กับกำลังพล ที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำฐานปฏิบัติการสำคัญ ได้แก่ ฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ฐานปฏิบัติการพลาญยาว และฐานปฏิบัติการป้อมปูน ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี



สำหรับการลงพื้นที่ครั้งนี้ มี พลโท วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 และ พลตรี สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ซึ่งได้นำตรวจพื้นที่และสรุปภาพรวมการปฏิบัติการ รวมถึงแนวทางการเฝ้าระวังสถานการณ์บริเวณชายแดน 



พลเอก ณัฐพล ยังได้สอบถามความเป็นอยู่ของกำลังพล พูดคุยแลกเปลี่ยนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ พร้อมร่วมรับประทานอาหารกลางวัน และมอบสิ่งของจำเป็น เพื่อใช้สนับสนุนภารกิจ

ขณะเดียวกัน ได้เน้นย้ำให้หน่วยกำลังรบ ให้ความสำคัญกับการดูแลสวัสดิการ ขวัญ และกำลังใจของกำลังพลในทุกระดับ รวมถึงให้มีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อรักษาความสงบและความมั่นคงตามแนวชายแดนต่อไป

ไทย-กัมพูชา ลงพื้นที่ “หลักเขตที่ 47” จ.สระแก้ว-จ.บันเตียเมียนเจย นำร่องสำรวจพื้นที่เก็บกู้ทุ่นระเบิด ย้ำเคารพอธิปไตยแต่ละฝ่าย
 

ขณะที่ พ.อ.ศิวะ หว่างอากาศ โฆษกศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (7 พ.ย. 68) กรมข่าวทหาร นำคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนประจำประเทศไทย (AOT-TH ) เข้าร่วมรับฟังและสังเกตการณ์การประชุมจัดทำแผนปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ระหว่าง คณะทำงานจากศูนย์ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งประเทศไทย (TMAC) และศูนย์ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติกัมพูชา(CMAC) ในการประชุมหารือด้านเทคนิค โดยมีคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนฝั่งกัมพูชา (AOT-CM)  ที่ ห้องประชุม 1 อาคารศุลกากรอรัญประเทศ  อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว



รวมทั้งร่วมคณะฯ​ ทำการตรวจสอบพื้นที่เก็บกู้ระเบิดนำร่องในเขตชายแดน บริเวณหลักเขตที่ 47 ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ด้านตรงข้าม ต.โอเบ็ยจวน อ.โอโจรว จ.บันเตียเมียนเจย กัมพูชา โดยทั้งสองฝ่ายย้ำว่า การประชุมและการดำเนินงานทั้งหมดจะเป็นไปตามหลักการ และแนวปฏิบัติมาตรฐาน (SOP) ที่คณะทำงานร่วมได้ตกลงร่วมกันไว้ พร้อมยึดมั่นในการเคารพอธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดนของแต่ละประเทศอย่างเคร่งครัด และดำเนินงานด้วยจิตวิญญาณแห่งการเคารพซึ่งกันและกัน 

เปิดหนังสือ ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องสร้างรั้วชายแดนฝั่งจันทบุรี-ตราด ระยะทางกว่า 8 กม. หลักเขต 52-59 ด้าน "ทูตประศาสน์" เตรียมลงพื้นที่
 

ส่วนความคืบหน้าการสร้างรั้วชายแดน พื้นที่หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี (ฉก.นย.จันทบุรี) ในการกำกับดูแลของ กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.)

ล่าสุด กระทรวงการต่างประเทศ ทั้งสองฝ่าย โดยฝ่ายไทย นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย หัวหน้าคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ได้ลงนามและทางฝ่ายกัมพูชา ได้พิจารณารับรองเอกสารทางเทคนิค (Technical Instruction: TI) สำหรับการสำรวจและติดตั้งหลักเขตแดนชั่วคราวระหว่างหลักเขตที่ 52–59 ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ 1-2 เรียบร้อยแล้ว ในขั้นต่อไปจะดำเนินการ ขั้นที่ 3 คือการสำรวจแนวเขตและปักหลักเขตชั่วคราว โดยได้นัดกับทางฝ่ายกัมพูชา มาดำเนินการในเร็ววันนี้

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้เมื่อ 4 พ.ย. 68 ชุดสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา โดยมี พ.อ. ยุทธพล สุจริต แม่กองสนามฯ ฝ่ายไทย และ นายพรมเซือน วัฒนะ แม่กองสนามฯ ฝ่ายกัมพูชา ได้ร่วมหารือการจัดทำคำแนะนำทางเทคนิคในการสำรวจและกำหนดหมุดชั่วคราว ระหว่างหลักเขตแดนที่ 52-59 พร้อมทั้งได้ลงนามเห็นชอบร่วมกันในคำแนะนำทางเทคนิคฯ ดังกล่าว โดยมี น.อ. ปรัชญา หาญเทียม ผบ.ฉก.นย.จันทบุรี น.อ.แทน ทองรับแก้ว รอง ผบ.ฉก.นย.จันทบุรี น.อ.วีระเชษฐ์  ขยันทำ หน.ชค.ทพ.นย.2 และ นายสิทธินนทร์ เชียรชีระสกุล กำนันตำบลเทพนิมิตร เข้าร่วมหารือฯ ณ ด่านผ่านแดนถาวรช่องโดง อ.ก็อมเรียง จ.พระตะบอง ประเทศกัมพูชา

สำหรับงบประมาณในการสร้างมีพร้อมแล้ว รวมถึงกองทุนหทัยทิพย์ ภายใต้มูลนิธิจุฬาภรณ์ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี